ตามที่พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
กำหนดไว้ว่า
วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพควบคุมห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุมโดยไม่ได้รับ
ใบอนุญาต และควบคุมเฉพาะการจัด การเรียนการสอนในสถานศึกษาปฐมวัย (อนุบาล)
ขั้นพื้นฐาน (ประถมศึกษา, มัธยมศึกษา) และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา (ปวช,
ปวส.) เท่านั้น แล้วการจะขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
คุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด คือ
1) อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์
2) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง
3)
ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่
น้อยกว่า 1 ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่ คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
4) ต้องไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
5) ต้องไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ และ
6) ต้องไม่เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่ คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ผู้ที่สามารถจะขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูทางหลักและเป็นช่องทางตาม
มาตรฐานที่เหมาะสมที่สุด คือ
ผู้ที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาหลักสูตร 5 ปี
จากสถาบันอุดมศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรองปริญญาทางการศึกษานั้น
ไม่ว่าจะสาขาหรือวิชาเอกใดก็ตามที่คุรุสภาให้การรับรองแล้ว
สามารถนำมาขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้
เพราะคุรุสภาประเมินมาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการผลิต
และมาตรฐานบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาแล้วว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่คุรุสภากำหนดไว้
ซึ่งหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรองจะต้องรวมประสบการณ์
ในการปฏิบัติการสอนของนักศึกษาไว้ อย่างน้อย 1 ปี (1 ปีการศึกษา) ซึ่งเป็น
คุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ตามหลักสูตร จะต้องเรียน 5 ปี
ซึ่งต่างจากปริญญาตรีอื่น ที่เรียน 4 ปี
ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาอื่นๆ เก่งเป็นที่ยอมรับด้วย เช่น
แพทย์ ทนายความ วิศวกร สถาปนิก พยาบาล แล้วอยากเป็นครูบ้าง
คุรุสภากีดกันไม่ให้มาเป็นครู คงต้องตอบว่าไม่ใช่ แต่หลักการสาคัญ คือ
ทำอย่างไรให้คนคนนั้นมีคุณสมบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครู คือ
มีความรู้วิชาชีพครูและมีประสบการณ์ในการปฏิบัติการสอนไม่น้อยกว่า 1 ปี
ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันของการเข้าสู่วิชาชีพครู แม้ว่าวิธีการเข้าสู่วิชาชีพครูอาจจะแตกต่างกันไป ดังนี้
แนวทางที่ 1 การศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูที่คุรุสภารับรอง
ซึ่งเดิมกำหนดให้เป็นแนวทางหลักแนวทางหนึ่งสำหรับผู้ที่จบสาขาวิชาอื่นมา
แล้วต้องการเป็นครู สามารถศึกษาต่อยอดตามหลักสูตรดังกล่าว
โดยจะศึกษาเฉพาะวิชาชีพครูตามมาตรฐานและปฏิบัติการสอนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1
ปี สำเร็จการศึกษาแล้วสามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ปัจจุบัน
คุรุสภาให้การรับรองเฉพาะของสถาบันที่เปิดสอนให้กับครูของ
หน่วยงานต้นสังกัดที่มีผู้ประกอบวิชาชีพครูที่ยังไม่มีคุณวุฒิปริญญาทางการ
ศึกษา
แนวทางที่ 2 การขอรับรองความรู้วิชาชีพครูตามมาตรฐานวิชาชีพ คุรุ
สภากำหนดให้มี 3 วิธี คือ การเทียบโอน (คือ
การนำเอาความรู้ตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
โดยดูจากคำอธิบายรายวิชามาเทียบกับสาระความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู)
การทดสอบ (คือ การสอบความรู้วิชาชีพครูตามมาตรฐาน
โดยใช้แบบทดสอบที่คุรุสภากำหนด) และการฝึกอบรม (คือ
การจัดอบรมเนื้อหาวิชาชีพครู 9 มาตรฐาน)
ซึ่งสามารถใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีรวมกันให้ผ่านการรับรองความ
รู้ ผู้ผ่านการรับรองความรู้ครบ 9 มาตรฐานแล้ว
สามารถขอรับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณสมบัติของผู้ถือว่ามีมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู
แต่ยังขาดประสบการณ์การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน
และอุดมศึกษาที่ต่ากว่าปริญญาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
คุรุสภาให้มีสิทธิในการเป็นครูโดยอยู่ในความควบคุมของผู้บริหารสถานศึกษาได้
เมื่อประกอบวิชาชีพครูต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
และผ่านการประเมินของสถานศึกษาแล้ว
สามารถนำแบบประเมินพร้อมใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
มาขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ ปัจจุบัน คุรุสภายกเลิกการฝึกอบรมแล้ว
คงเหลือแต่การเทียบโอน และการทดสอบ
แนวทางที่ 3 การขอรับรองคุณวุฒิ ตาม
ที่กฎหมายมาตรา 44 กำหนดว่าเป็นคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า
หรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง
คุรุสภาจึงกำหนดให้ผู้ต้องการประกอบวิชาชีพครูสามารถขอรับรองคุณวุฒิได้ตาม
ประกาศหลักเกณฑ์ที่คุรุสภากำหนด
โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นคุณวุฒิที่เป็นความต้องการของผู้ใช้
โดยให้หน่วยงานผู้ใช้ระบุเหตุผลความจำเป็น
พร้อมกับผู้นั้นต้องมีประสบการณ์ที่เป็นที่ยอมรับและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ
วิชาชีพครูด้วย
ตามแนวทางที่กล่าวมาแล้ว
จะเห็นว่ามีหลายช่องทางที่ผู้มีคุณวุฒิอื่นสามารถเข้าสู่วิชาชีพครูได้
แต่จะเป็นคนละเรื่องกับการเข้าสู่
ตำแหน่งครูหรือการสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู
คุรุสภาอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพครูได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดในแต่ละช่องทาง
แต่การเข้าสู่ตาแหน่งเป็นเรื่องของหน่วยงานผู้ใช้หรือหน่วยงานต้นสังกัด
เช่น ในการสอบบรรจุหน่วยงานต้นสังกัดให้ใช้ใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพครู
หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน เป็นหลักฐานในการสมัครสอบ
ผู้ที่จะสมัครสอบก็ต้องมีหลักฐานตามเงื่อนไขของหน่วยงาน
โดยคุรุสภามิได้ปิดกั้นผู้มีความรู้ ความสามารถเข้าสู่วิชาชีพครู
แต่ในทางตรงกันข้าม เราหาวิธีการให้เข้าสู่วิชาชีพครูได้ภายใต้
หลักการการมีมาตรฐานวิชาชีพ
สำหรับอีกแนวทางหนึ่งของผู้ที่ยังไม่มีคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแต่
สถานศึกษามีความจำเป็นต้องรับเข้าสอน
สถานศึกษาจะต้องทำหนังสือขออนุญาตจากคุรุสภา โดยแจ้งเหตุผล
ความจำเป็นประกอบการพิจารณาอนุญาต คุรุสภาจะพิจารณาตามเหตุผลความจำเป็น
ความเหมาะสม ในเรื่องคุณวุฒิ วิชาที่รับผิดชอบสอน
และจะสอนได้เฉพาะในสถานศึกษาที่เป็นผู้ขออนุญาตให้เท่านั้น
โดยอนุญาตให้เป็นเวลา 2 ปี
เพื่อไปพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้
แต่สถานศึกษาก็จะต้องช่วยกันพิจารณาขอเท่าที่จำเป็น เพราะยังมีผู้ที่ได้รับ
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแล้วแต่ยังไม่ได้เป็นครูอยู่เป็น จำนวนมาก
จึงขอความร่วมมือให้พิจารณารับครูจากผู้ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจาก
คุรุสภาแล้ว
คุรุสภา :สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาCall Center : 0-2304-9899
[url]www.ksp.or.th[/url]