แนวข้อสอบการบริหารงานบุคคลากร
คำชี้แจง
จงเลือกคำตอบข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องของการบริหารงานบุคคล
ก. คือเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคลในองค์การ
ข. คือการจัดงานด้านตัวบุคคล
นับตั้งแต่การสรรหาบุคคลเข้าปฏิบัติงาน
ค. คือการบริหารทรัพยากรมนุษย์
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้คนดี มีคุณวุฒิและมีความสามารถ
เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่มาทำงานตามความสนใจพึงพอใจอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ง. ทั้งข้อ
ก. ข. ค.
ตอบ ง.
ทั้งข้อ ก. ข. ค.
2. คำใดที่ใช้ในความหมายเดียวกับ “การบริหารงานบุคคล”
ก. การเจ้าหน้าที่ ข. บุคลาภิบาล
ค. การพนักงาน ง. ข้อ
ก. ข. และ ค.
ตอบ ง.
ข้อ ก. ข. และ ค.
3. กิจกรรมใดไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล
ก. การสรรหาบุคคลเข้าปฏิบัติงานในองค์การ ข. การฝึกอบรม
ค. การจัดงบประมาณในองค์การ ง. การประเมินผลการปฏิบัติงาน
ตอบ ค.
การจัดงบประมาณในองค์การ
4. Max Weber มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามทฤษฎีของเขาอย่างไร
ก. สร้างระบบงานโดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
ข. สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการบริหารงานบุคคลมาก
ค. ให้ความสนใจกับ Informal Organization
มาก
ง. ทั้งข้อ ก. และ
ข. ถูก
ตอบ ก.
สร้างระบบงานโดยกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
5. แนวความคิดในการบริหารงานบุคคลที่เรียกว่าเป็นแนว Traditional นั้นคืออะไร
ก. คือแนวที่เรียกว่า Classical Organization
ข. คือการที่มิได้ให้คุณค่าของผู้ปฏิบัติงานในแง่ที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อองค์การได้โดยตรง
ค. เป็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานและมุ่งหาวิธีที่ดีที่สุด
ง. ข้อ ก.
ข. และ ค. ถูก
ตอบ ง.
ข้อ ก. ข. และ ค.
ถูก
6. การพิจารณาองค์การบริหารโดยพิจารณาโดยตรงไปที่
“มนุษย์”และ “พฤติกรรมของมนุษย์” ในองค์การ
โดยไม่สนใจโครงสร้างขององค์การ
เป็นการศึกษาแบบใด
ก. แบบ Neo Classical Theory ข. แบบ Human
Relations
ค. แบบ Scientific
Management ง. ข้อ
ก. และ ข. ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก.
และ ข. ถูก
7. การทดลองค้นคว้าของ Rlton Mayo
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในการบริหารงานบุคคลด้านใด
ก. ทำให้นักบริหารหันมาสนใจตัวบุคคล
หรือประสิทธิภาพอันเกิดจากตัวบุคคลในการปฏิบัติงาน
ข. มีผลต่อการบริหารด้านขวัญและแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
ค. ทำให้นักบริหารเองเอาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใช้ในการบริหารงานบุคคลเป็นส่วนใหญ่
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของคน
ง. ข้อ
ก. และ ข. ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก.
และ ข. ถูก
8. คำว่า
“Administration” หมายถึงข้อใด
ก. การรับใช้
ข. การทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปโดยใช้ให้ผู้อื่นเป็นผู้กระทำ
ค. กิจกรรมของกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.
ถูกทุกข้อ
9. Public Administration ในลักษณะที่เป็นศิลป์ (Art) หมายถึงอย่างไร
ก. การจัดเนื้อหาเป็นระบบระเบียบ
สอนกันได้ถ่ายทอดความรู้กันได้
ข. เป็นการปฏิบัติงานหรือบริหารราชการ
ค. เป็นการทำให้นโยบายของรัฐบาลบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย
ง. ข้อ
ข. และ ค.
ตอบ ง.
ข้อ ข. และ ค.
10. ฝ่ายการเมือง
คือใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. ผู้ดำรงตำแหน่งตามวาระหรือวิถีทางการเมือง
ค. ผู้ดำรงตำแหน่งโดยยึดเป็นอาชีพจากผลการสอบ
ง. ถูกเฉพาะข้อ
ก. และ ข.
ตอบ ง.
ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
11. ฝ่ายประจำ
คือใคร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. ผู้ดำรงตำแหน่งตามวาระหรือวิถีทางการเมือง
ค. ผู้ดำรงตำแหน่งโดยยึดเป็นอาชีพจากผลการสอบ
ง. ถูกเฉพาะข้อ
ข. และ ค.
ตอบ ง.
ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
12. ในการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประจำนั้นมีหลักการอย่างไร
ก. ฝ่ายการเมืองกำหนดนโยบายและควบคุมการทำงานของฝ่ายประจำให้เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้
ข. ฝ่ายการเมืองต้องขอคำปรึกษาชี้ขาดจากฝ่ายประจำเสียก่อนจึงจะกำหนดนโยบายในการทำงานได้
ค. ฝ่ายการเมืองต้องปล่อยให้ฝ่ายประจำเป็นผู้ชี้ขาดในการกำหนดนโยบายเพราะฝ่ายประจำมี
ความชำนาญงานมากกว่า
ง. ฝ่ายการเมืองต้องรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายประจำเสียก่อนจึงจะกำหนดนโยบายในการปฏิบัติงานได้
ตอบ ก.
ฝ่ายการเมืองกำหนดนโยบายและควบคุมการทำงานของฝ่ายประจำให้เป็นไปตามนโยบายที่
วางไว้