เมื่อคืนดูสารคดีของUBCช่อง NGC เรื่องเกี่ยวกับการไปเที่ยวในประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อก่อนเคยได้อ่านForword mail เกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริงขนาดนี้ แต่พอได้ดูของ NGC เมื่อคืนก็ต้องยอมรับว่าจริงเกิน100%ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศเหมือนถูกจัดฉากใว้ยังกะสตูดิโอในหนังเหมือนทุกคนถูกโปรแกรมสั่งให้ทำในสิ่งที่หัวหน้าพรรคสั่งเท่านั้นทั้งไกด์และผู้ให้ข้อมูลทุกอย่างจะพูดเฉพาะคำพูดที่เหมือนกับการท่องเอาใว้ข้อมูลบอกรายละเอียดบางอย่างเป็นวินาทีหรือเซนติเมตรเลยหากกล้องถ่ายไปยังผู้คนที่จับกลุ่มกันพวกเขาจะแตกกลุ่มออกทันทีและหนีกล้องไม่มีการให้สัมภาษและให้ข้อมูลหรือพูดด้วยนอกจากคนที่ถูกจัดใว้ตามประกบนักท่องเที่ยวหรือไกด์พวกนี้จะคอยบอกและห้ามไม่ให้ออกนอกกรอบที่ทางพรรคกำหนดใว้แม้แต่รถก็ห้ามหยุดหรือจอดโดยไม่มีเหตุจำเป็นโดยเด็ดขาดไม่มีปั๊มน้ำมันไม่มีรถยนต์และสิ่งอำนวยความสะดวกใดใด ประชาชนของเขาต้องถูกสั่งให้เกียจชังพวกชาตินิยมโดยเฉพาะอเมริกากับญี่ปุ่นเด็กต้องได้ฝึกยิงปืนแต่เล็ก แต่ที่ดูแล้วลึกๆทุกคนล้วนต้องการเสรีภาพเหมือนที่เกาหลีใต้มีกันมากกว่า
ดูแล้วเมืองไทยน่าอยู่ขึ้นเยอะเพียงแต่ทุกคนไม่มาทะเลาะกันแค่นี้ก็พอ ว่าแล้วเอา Forword mail มาให้ดูแล้วกัน
ความเป็นจริงของเกาหลีเหนือ ที่ไม่เคยถูกตีแผ่เมื่อคุณมาถึงสนามบิน คุณต้องเก็บโทรศัพท์มือถือของคุณ เพราะมันไม่มีบริการRoaming ที่นี่ และเป็นข้อห้าม แต่ถ้าเราแอบเอามากดเลือกผู้ให้บริการเองแล้วคุณจะพบ PRK 03
ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นใครในเกาหลีเหนือใช้โทรศัพท์มือถือเลยก็ตาม สำหรับ Laptopนั้นได้รับอนุญาตให้เอาเข้าประเทศได้ ดู
เหมือนว่าเกาหลีเหนือจะไม่ได้ระวังว่า Laptopนั้นจะใช้เป็นโทรศัพท์ได้
นี่เป็นบ้านหลังเดียวที่นักท่องเที่ยวได้รับอนุญาติให้เข้าชมได้มันเป็นบ้านในอุดมคติของชาวนา ในอุดมคติ
ซึ่งมีแม้แต่ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ที่ไม่เคยต่อเข้าด้วยกันอินเตอร์เน็ตนั้นไม่มีให้บริการ มีแต่อินทราเน็ตเท่านั้น
เมื่อคุณมาถึงคุณจะถูกจัดให้ไปกับไกด์และคนขับรถ พวกเขาจะตามคุณไปทุกที่ซึ่งคุณไม่สามารถออกจาก
โรงแรมได้ถ้าไม่ได้มีพวกเขาตามไปด้วยในโปรแกรมการเที่ยวแต่ละวันรวมถึงการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ
2 - 3 แห่ง ในโรงแรมนั้นคุณสามารถชม BBC NTV (ทีวีรัสเซีย) และช่องของจีน2 - 3 ช่อง
มีร้านเล็ก ๆ ซึ่งขายสินค้าจากต่างประเทศให้นักท่องเที่ยว ตั้งมาแต่ปี 2001คุณต้องจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์หนึ่งและจะได้รับบัตรรับสินค้าเพื่อไปรับในอีกเคาน์เตอร์หนึ่ง
สำหรับร้านที่ขายของให้ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะขายแต่น้ำมะนาวโดยนักท่องเที่ยวจะได้รับถ้วยพลาสติก
ส่วนชาวเกาหลีเหนือจะได้รับถ้วยกระเบื้องซึ่งจะนำไปล้างและนำกลับมาใช้ใหม่
บางครั้งคุณก็เห็นชาวบ้านขายผักบางชนิด ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายข้างๆร้านขายผลไม้และผัก ซึ่งปิดทันทีเมื่อเห็นนักท่องเที่ยว
น้ำมันแทบจะหาไม่ได้ การทำกสิกรรมส่วนใหญ่ยังใช้วัวควายและแรงงานจากคน
ในเมืองนั้นเกาหลีเหนือจะสร้างอาคารสูงคอยบังอาคารเตี้ยๆ เสมอซึ่งถ้ามันเป็นไปไม่ได้ ชาวเกาหลี
เหนือก็สร้างกำแพงคอนกรีตบังภาพที่ไม่น่าดูเอาไว้ จะเห็นได้แค่หลังคา
เมื่อคุณพยายามจะถ่ายภาพซึ่งแตกต่างจากนิตยสาร " Korea " ไกด์จะถามว่า "คุณจะถ่ายรูปไปทำไมห้ามถ่ายภาพที่นี่"
ไกด์ห้ามถ่ายภาพชายยืนปัสสาวะกลางถนน หรืออนุเสาวรีย์แต่ก็แอบถ่ายมาได้ตามเคย
อนุเสาวรีย์นี้จะถูกปิดไฟในเวลา 5 ทุ่ม
นี่คือทั้งหมดของเปียงยางที่นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปจะไม่ได้เห็นภาพนี้เมื่อถามไกด์ถึงบ้านเก่าๆ ที่มีอยู่มากมาย ไกด์ตอบว่าคนพวกนั้นไม่ยอมย้ายออกไป และขออยู่ที่เดิม
ในสถานที่บรรจุศพผู้นำ คุณต้องเอาเสื้อเข้าในกางเกงและทำท่าขึงขังและวางทุกอย่างยกเว้นแว่นตาดำ
ไว้ที่ทางเข้า คุณต้องเดินผ่านเครื่อง X-ray (ซึ่งไม่มีใครบอกคุณ)และมีเหตุผลบางอย่างที่สถานที่นี่ติดWi Fi Router
ประมาณ 10% ของชาวเกาหลีเหนือเป็นทหารมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินไปโดยไปพบทหาร
มันเป็นความสนุกสนานอย่างหนึ่งที่เกาหลีทั้งสองฝั่งจะมอบให้คุณนั้นคือการพาไปเยี่ยมชมชายแดน
สังเกตุดูสิว่าถนนในระบบทุนนิยมนั้นมีสภาพดีแต่ในระบบคอมมิวนิสต์นี่สภาพแย่มาก
หมู่บ้าน ปัน มุน จอม หมู่บ้านนี้มีเส้นแบ่งระหว่างเกาหลีเหนือและใต้พาดผ่านถือเป็นพื้นที่ที่มีการเผชิญ
หน้ากันมากที่สุดในโลก ทหารแต่ละฝ่ายจะยืนคุมเข้มในฝั่งของตนทหารเกาหลีเหนือจะยืนหันหน้าเข้าหากันอย่างนี้
นัยว่าเพื่อจับตาซึ่งกันและกันไม่ให้คนหนึ่งกระโดดหนีไปแดนเกาหลีใต้
ถนนนั้นเตรียมไว้แล้วสำหรับรับมือการบุกบล็อกสี่เหลี่ยมคอนกรีตนั้นจะถูกดันลงมาเพื่อสกัดกั้นรถถัง พวก
เขาสร้างมันไว้บนถนนทุกเส้นในรัศมี 50 กม.จากชายแดน
ชายหาดในเกาหลีเหนือนั้นถูกล้อมด้วยรั้วไฟฟ้าซึ่งป้องกันชาวเกาหลีเหนือว่ายน้ำหนีแน่นอนว่าห้ามถ่ายภาพ
ชาวเกาหลีเหนือมักภูมิใจที่จะอวดสิ่งของที่ยึดได้มากศัตรูอย่างเช่นเรืออเมริกันที่ชื่อ Pueblo
ตึกนี้ที่มีแอร์ติดอยู่ทุกห้องในขณะที่ที่อื่นไม่มีเลยไกด์บอกว่าห้ามถ่ายอีกตามเคย แสดงให้เห็นว่านี่ไม่ใช่บ้าน
ธรรมดา นักวิทยาศาสตร์หรือคนระดับสำคัญอาจจะอยู่ที่นี่ก็ได้(ความไม่เท่าเทียมมีทุกที่ แม้ในระบอบคอมมิวนิสต์)
นี่คือโฆษณาสินค้าเพียงชิ้นเดียวที่นี่ซึ่งก็คือโฆษณารถซึ่งร่วมกันสร้างกับเกาหลีใต้
ภาพโฆษณาอีกบางส่วนที่เห็นได้ ส่วนใหญ่เป็นโฆษณาชวนเชื่อในภาพวาดนั้นแสดงถึงฮีโร่ ซึ่งก็คือคนงาน
ประติมากรรมที่เป็นตัวแทนของชนชาวเกาหลีเหนือ ฆ้อน (คนงาน) เคียว (ชาวนา)และพู่กัน
ผู้เชี่ยวชาญ แสดงให้เห็นถึงชนชั้นต่างๆที่ประกอบขึ้นเป็นประเทศเกาหลีเหนือ
(ดูขนาดของรูปหล่อทองแดงนี้สิว่าขนาดใหญ่แค่ไหนเมื่อเทียบกับคน)
ในทุกที่คุณจะเห็นข้อความที่กล่าวสดุดีท่านผู้นำ
แต่ใช่ว่าประเทศนี้จะไม่มีอารมณ์ขันเสียทีเดียว ดูได้จากประติมากรรมนี้(ที่นี่นิยมใช้ทองแดงสร้าง)
ประชากรทุกคนจะมีเข็มของคิม อิล ซุง ยกเว้นเด็กทารก และตัวคิม อิลซุงเอง
ประตูในภาพ X หมายความว่าห้ามเข้าแล้ววงกลมที่ดูเหมือนเปายิงปืนคือเข้าที่นี่
ใน model pioneer palace จะมีคอนเสิร์ทแสดงให้ชมเมื่อการแสดงจบลงจะมีภาพของคิม จองอิลแสดงให้ดู
ที่นี่มีรถไฟใต้ดิน ประตูกั้นทางเข้าสูงแค่เข่า ป้ายข้างหลังอ่านว่า "คิม จองอิล บุตรแห่งศตวรรศที่ 21"
รถไฟมี 4 ตู้ ประตูนั้นเปิดด้วยมือ แต่ปิดอัตโนมัติ
ดูเหมือนว่าเป้าหมายของสถาปนิกเกาหลีเหนือคือจะทำให้สถานีรถไฟน่าประทับใจเหมือนกับที่มอสโคว
เป็นเรื่องปกติที่ในเมืองจะไม่มีรถ ทุกคนเดินเท้ากันหมดบางทีการขนส่งมวลชนก็ใช้รถลากหรือแม้แต่รถบัสสองชั้น
จักรยานนั้นไม่มีให้เห็นมากนักเนื่องจากราคาแพงโปรดสังเกตุทางม้าลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่
ในเปียงยางมีทางลอดข้ามถนนมากมายและทุกคนนั้นเคารพกฏถ้าคุณข้ามถนนในที่ห้ามข้ามคุณจะถูกปรับแม้ว่าถนนจะว่างขนาดนี้ก็ตาม
คนขับไม่เคยหยุดให้คนเดินถนน พวกเขาจะบีบแตรไล่ไกด์ไม่สามารถอธิบายปฏิกิริยาที่เชื่องช้าของคน
เดินถนนเมื่อได้ยินเสียงรถได้ ในชนบทผู้คนจะเดินทุกๆ ที่ที่อยากเดินเหมือนกับว่าไม่มีรถบนถนน
ด้วยเหตุผลบางอย่างปั๊มน้ำมันถูกซ่อนไว้และผู้โดยสารถูกขอให้ลงก่อนเข้าไปเติมน้ำมัน
คนที่จะขึ้นรถเมล์ได้นั้นคือคนที่ต้องเดินทางมากกว่า 30 นาทีถ้าน้อยกว่านั้นต้องเดิน
นี่คือรถเมล์ในเกาหลีเหนือ
โรงแรมซึ่งถูกงดก่อสร้างตั้งแต่ปี 1991 ดูความใหญ่โต
ในโปรแกรมทัวร์ นักท่องเที่ยวถูกกำหนดให้ต้องไปเที่ยวสวนสาธารณะสถานที่นี้ประชาชนเกาหลีเหนือห้ามเข้า