วิธีการทำ Fan Page facebook แบบง่ายๆ
FACE BOOK กับ แฟนเพจ ต่างกันอย่างไร เพื่อนๆที่เคยใช้ FACE BOOK แล้ว หลายคนทราบ และมีแฟนเพจอยู่แล้ว แต่หลายๆท่านไม่ทราบ ลองมาทำความเข้าใจข้อมูลดูครับ
 1.Face Book เป็นข้อมูลส่วนตัวลักษณะคล้าย เว็บบอร์ด แต่หลายชั้น การที่ใครจะเข้าชมได้ ต้องมีข้อปฏิบัติบางอย่าง แต่ก่อนไปดูลองชมหน้าFace Book ของผมดูครับ http://www.facebook.com/anonsat
 ข้อปฏิบัติมีคร่าวๆดังนี้ 1.1 ต้องสมัครใช้เฟซบุคที่นี่ http://www.facebook.com ก่อน 1.2 ส่งคำขอเป็นเพื่อนถ้าจะเข้าชมเฟซบุคคนอื่น และ ได้รับการตอบรับเป็นเพื่อนก่อน 1.3 Face Book 1 คน มักจะมีแค่ 1 ชื่อ บางคนอาจจะใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ไทย ก็ได้ แต่มักนิยมเป็นภาษาอังกฤษ 1.4 Face Book ส่วนใหญ่จะใช้รูปจริง เพราะเป็นการแสดงความจริงใจในการคบหากัน ถ้าใครที่ไม่ใช้รูปก็จะมีคนตอบรับเป็นเพื่อนน้อย 1.5 Face Book จะรับเพื่อนได้แค่ 5,000 รายชื่อเท่านั้น ตัวอย่างเฟซบุค ของพี่เบิร์ดธงชัย หรือของคุณกนก รัตน์วงสกุล หรือคนดัง มักจะเต็ม 5,000 ได้ไม่นาน อย่าง คุณแอน ทองประสม ก็เกิน 5,000 จึงต้องทำเป็น Fanpage แทน 1.6 ข้อความที่มีตั้งกระทู้จะมีจำกัดจำนวนตัวอักษร 2.Fan Pageเป็นอย่างไร แฟนเพจคือเฟซบุคที่ไว้ใช้กับองค์กร หรือคนดัง หรือร้านค้าก็ได้ จะใช้บัญชีร่วมกันกับเฟซบุค
ตัวอย่าง Fanpage คนดัง คุณชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต น่าจะเป็นคนที่มีแฟนมากที่สุดในเมืองไทยแล้ว เพราะมี 100,000 กว่าคนแล้วก็น่ารักนี่ครับ

Fanpage ร้านค้าหรือ องค์กรต่างๆ มีหลากหลายมากครับ ลักษณะจะคล้ายๆกันคือทำเพื่อ การค้า หรือ สนุก

แฟนเพจจะมีความต่างจากเฟซบุคตรงที่ 1.1 ไม่ต้องรับคำขอ ใครเข้ามาก็ดูข้อมูลได้เลย ขอให้เป็นสมาชิกเฟซบุค ก็พอ 1.2 พิมพ์ข้อความไม่จำกัด 1.3 รับสมาชิกได้ไม่จำกัด อย่างคุณอารยา เอร์ฮาเก็ต มีสมาชิก แสนกว่าคน น่าจะเยอะที่สุดในประเทศไทยเนอะ ในหมู่นักแสดง แต่ถ้านักการเมือง ต้องแฟนเพจของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอีกไม่นานก็จะเป็นของคุณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
 1.4 ลูกค้าถ้าจะคุยกับร้านค้าแค่กดถูกใจก็พอ 1.5 ใน 1 คนสามารถมีแฟนเพจได้หลายชื่อ หรือ หลายร้านค้า อย่างผม มีแฟนเพจ 3 แฟนเพจ
การจะมีแฟนเพจ ต้องสมัครเฟซบุ้คก่อน โดนการใช้ E-mail และ Username พอมี User Name แล้ว ก็ค่อยสมัครแฟนเพจ โดยทำตามรูปดังนี้
วิธีการสร้างแฟนเพจ 1.ให้กดออกจากระบบที่ปุ่มบัญชีผู้ใช้ มุมขวาบน ก่อน แล้วสังเกตข้อความด้านล่างขวา กดที่ สร้างหน้าใหม่

2.กรอกข้อมูลให้ครบตามที่วงไว้ และตั้งชื่อทีจะให้เป็นชื่อ fanpage อย่างของผมจะทำfanpage หมึกพิมพ์ออนไลน์ พยายามยามมีตัวอักษรไทยน้อยๆ

3. กด และกรอก E-mail และ UserName

4.ใส่รูปโลโก้ กว้างไม่เกิน 200 pixel ความสูงตามความชอบ




5.ต่อไปก็ใส่ข้อมูลเว็บ



หน้าตาแฟนเพจที่พึ่งเสร็จหมาดๆวันนี้
 ลองไปชมตัวอย่างของจริงที่ผมทำครับ http://www.facebook.com/inkems/ ถ้ายังไงช่วยกดถูกใจให้หน่อยนะครับ ผมจะได้มียอดพอที่จะเปลี่ยนชื่อให้สั้นได้ ตอนนี้ชื่อยาวววววววมากกกกกกก คือถ้าแฟนไม่ถึง 30 คนมันจะเปลี่ยนเป็นชื่อสั้นไม่ได้555
ต่อไปจะแนะนำวิธีการ ในการใช้งานแฟนเพจ หรือดูแฟนเพจที่ตัวเองสร้างมา ให้เข้าไปที่ / บัญชีผู้ใช้ / จัดการหน้าต่างๆ แล้ว / ไปยังหน้านั้นๆ จะมีกี่แฟนเพจ ก็ใช้บัญชีเดียว

การเอา Face Book Fanpage ไปติดไว้ที่เว็บไวต์ของคุณ เคยเห็นตามหน้าเว็บจะมี แถบเมนูด้านข้างที่ให้เอาปุ่ม Facebook ไปไว้ข้างหน้า จะทำอย่างไร ไม่ยากครับ สังเกตตรง URL ข้างบน Fanpage ของคุณ เวลาเข้าไปให้ Copyเฉพาะตัวเลขไว้ก่อน ดังรูป

สังเกตตัวเลขให้ดีครับ.gif)
Copy ตัวเลขนี้ไว้ เพราะเป็นตัวเลขประจำแฟนเพจของคุณ

เดี๋ยวเราจะเอาไปทำ Code ไปวางไว้หน้าเว็บท่าน ลองขัดจงหวะด้วยการไปดูหลังร้านของเว็บผมก่อน จะไปวางไว้ที่ จุดที่ใส่ Banner


กลับไปไปสร้าง Code ที่ Fanpage กันก่อน .ให้ ไปที่แก้ไขหน้า และ หาข้อความนี้ครับ

กด แล้วใส่เลขเพจที่อยู่บน URL ของคุณเข้าไป และปรับความกว้างให้เท่ากับเว็บคุณ จะมีตัวอย่างให้เห็นเลย


แล้วเอา Code Copy ไปวางไว้ที่ เว็บไซต์คุณ


ออกมาจะได้แบบนี้ครับที่เว็บ ของผม มีตัวอย่างให้ดู http://www.inkems.com

เรียบร้อย ใครๆก็กดถูกใจได้ จะมีหน้าเพื่อนๆมาอยู่ด้วย ลองดูแถบถูกใจของจริงที่ผมแปะโค๊ดไว้หน้านี้ ถ้าจะไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ช่วยกดถูกใจหน่อยนะครับจะได้มีกำลังใจหาข้อมูลมาอีก.....
แต่ท่านที่มีแฟนเพจ อาจจะอยากได้ ชื่อ ที่เป็นชื่อสั้นๆ มาดูวิธีทำให้ชื่อสั้นๆครับ ตัวอย่างชื่อสั้น http://www.facebook.com/sattv ตอนแรกชื่อยาวมากเลยไม่ใช่ Sattv ลองมาดูวิธีทำครับ ไปที่เดิมก่อน
.gif)
หน้าของคุณนะครับ ไม่ใช่ผม

แล้วไปที่แก้ไขหน้า / ไปเลือกชื่อ

ไปตั้งค่าชื่อผู้ใช้งาน

และข้อสำคัญ ท่าน ต้องมีคนถูกใจ 25 คน ก่อนถึงจะเปลี่ยนชื่อ User Name ได้ และ ท่านเปลี่ยนชื่อได้ครั้งเดียวครับ คิดให้ดีๆ




.gif) ต่อไปก็กดพิมพ์ชื่อ และตอบตกลง ก็เอาชื่อใหม่ไปอวดใครๆได้แว้วครับ
ตัวอย่างจานดาวเทียม http://www.facebook.com/sattv หรือหมึกพิมพ์ http://www.facebook.com/inkems ถ้าจะขอบคุณก็กดถูกใจหน่อยนะครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ในหน้านี้ครับ Copy ได้ตามสบายครับ และจะวางลิ๊งค์หรือไม่ก็ขอบคุณล่วงหน้าครับ

Facebook เล่นยังไงไม่ให้โดนแบน
วันก่อนเขียนบทความเรื่อง “11 เหตุผลใหญ่ที่ทำให้ facebook ของคุณถูกระงับ” ไปปรากฎว่ามีคนสนใจกันมากมาย เพราะว่าสำหรับบางคนมันเป็นเรื่องใกล้ตัวเหลือเกิน หรือบางคนก็กำลังโดนระงับอยู่ ถึงขั้นอีเมล์มาถามกันมากมายว่าถ้าโดนระงับแล้วจะต้องทำยังไงบ้าง ผมเองพูดตามตรงว่าเป็นคนที่เล่น facebook ระมัดระวังมาก เล่นมา 3 ปีกว่าๆ ไม่เคยโดนตักเตือนอะไรแม้แต่นิดเดียว ก็เลยไม่ได้มีประสบการณ์ตรงที่จะมาเล่าให้ฟังซักเท่าไหร่ จนกระทั่งได้เข้าไปเจอบล็อกหนึ่ง ที่พูดถึงเรื่องนี้ไว้ แต่เป็นประสบการณ์ตรงที่มีอะไรละเอียดกว่าผมเยอะ ก็เลยขออนุญาตเจ้าของต้นฉบับนำมาโพสท์กันที่นี่ให้อ่านกันง่ายๆ ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่าน =================================================== Facebook เล่นยังไงไม่ให้โดนแบนผู้เขียน คุณปรียาพร ศรีหะรัญ ที่มา Preeyaporn.com  ใครที่เพิ่งเปิดบัญชี Facebook แล้วกำลังแอดเพื่อนกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่อเล่นเกม เพื่อสร้างมิตรภาพ หรือปูทางธุรกิจในระยะยาว ต้องพึงระวังให้ดี เพราะการมีเพื่อนเป็นสิ่งที่ดี เพื่อนยิ่งเยอะยิ่งดี ไม่มีใครห้าม แต่การกระทำทุกอย่างต้องอยู่ในขอบเขตของความถูกต้อง ตามกฏกติกาเพราะ Facebook เป็น Social Network ที่ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ที่สุด ในการสร้างสังคมออนไลน์ในเวลานี้ ไม่ว่าคนทั่วไป คนทำงาน ไปจนถึงบริษัท ภาครัฐ ต่างก็กระโจนเข้ามาทำการตลาดใน Facebook กัน อย่างหนัก เพราะเป็นช่องทางในการสร้างฐานลูกค้าได้จำนวนมาก แบบนุ่มนวลและเป็นมิตรที่สุด ผู้รับก็ให้การยินยอม และยินดีที่จะรับ แบบถูกกฎหมาย เมื่อคุณเปิดบัญชี Facebook เป็นที่เรียบร้อย กระบวนการแอดเพื่อนก็เริ่มขึ้น ด้วยการส่งคำเชิญขอเป็นเพื่อนจากคนที่อยู่ใน Facebook ด้วยกัน จากรายชื่อผู้ติดต่อใน Email ของคุณ ทั้งผู้ที่มีบัญชี Facebook อยู่แล้ว และผู้ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน คุณก็สามารถเชิญชวนพวกเขามาเป็นเพื่อนได้ทุกวันแต่กฎเหล็กในการสร้างสังคมใน Facebook ก็คือ ห้ามขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งข้อนี้ทุกคนคงรู้ดี และไม่กล้าทำแน่นอน แต่ทำไม พอเล่น ๆ ไปจนมีเพื่อนมากมาย แล้ววันนึง Facebook ของคุณก็เกิดเป็นหน้าว่างเปล่า ขาว ๆ ไม่หลงเหลือแม้แต่ตัวอักษรให้เห็นแม้ตัวเดียว …เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ใจหายแว๊บ…. บัญชีคุณถูกแบนไปเรียบร้อยโรงเรียน Facebook แล้วค่ะ สังคมที่คุณอุส่าห์อดหลับอดนอน ทนปั้นมากับมือ หายวับไปกับตา ก็น่าใจหายนะคะ เพื่อนก็เป็นร้อยเป็นพัน แล้วจะทำยังไงกันดี จะมีวิธีเอากลับมาเหมือนเดิมได้มั๊ยเนี่ย… คิดแล้วกลุ้ม มาดูกันที่สาเหตุกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเป็นเพราะอะไร จะได้ป้องกันแต่เนิ่น ๆ ซึ่งดิฉันจะแบ่งปันเฉพาะกรอบของผู้เล่นทั่วไป ที่ไม่ได้หวังแอดเพื่อนเพื่อเล่นเกม เพราะกฎกติกาการเล่นเกมจะมีแยกต่างหากอีกเป็น 10 ข้อเลยค่ะ ถ้าคุณไม่ใช่คนกลุ่มนี้ ก็อ่านต่อค่ะ สาเหตุการโดนแบนบัญชี Facebook ในเบื้องต้น กว่าคุณจะก้าวมาถึงจุดนี้ คุณต้องรู้แล้วว่า บัญชีของคุณไม่มีวันถูกปิดแน่นอน ถ้าชื่อบัญชีของคุณถูกต้องและตรวจสอบได้, คุณคือผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว, คุณรู้ว่าการเป็นสมาชิกในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้น สามารถรวมได้ไม่เกิน 200 หน้า/วัน , มีเพื่อนได้ไม่เกิน 5,000 คนในหน้า Profile และมีได้ไม่จำกัดในหน้า Fan page แต่สิ่งที่คุณต้องพึงระวังจากการถูกแบนโดยไม่รู้ตัว ก็คือ 1. ระหว่างที่คุณกำลังแอดเพื่อนอย่างเมามัน ระบบ ก็ขึ้นข้อความมาว่า “ระบบของ Facebook ได้ ประเมินว่าคุณได้ทำการส่งข้อความ อย่างรวดเร็วเกินไป ขอให้คุณลดความเร็วในการส่งข้อความลง อีกทั้งการใช้เว๊ปไซต์ผิดวัตถุประสงค์ อาจเป็นเหตุให้บัญชีผู้ใช้ของคุณถูกระงับใช้ชั่วคราว หรือถูกยกเลิกอย่างถาวร” แล้วก็สั่งให้คุณพิมพ์ตัวอักษรที่อ่านยาก ๆ 2 คำลงในช่องว่าง ให้คุณแอดต่อไปได้ นั่นหมายความว่าคุณแอดเพื่อนเร็ว หรือถี่จนเกินไป จนระบบอัตโนมัติตรวจจับได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้คุณหยุดแอด แล้วหันมาโพสต์สิ่งดี ๆ แบ่งปันให้เพื่อน ๆ แทน เพื่อ ให้เขาเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าที่ได้รับจากคุณ แล้วเขาจะขอแอดกลับมาเอง เพราะคุณอย่าลืมว่า เพื่อน 1 คนที่คุณแอดไปนั้น ยังมีเพื่อนของเขาอีกหลายร้อย หลายพันคนที่ได้เห็นข้อความของคุณด้วย รุกมากจะยากนานนะคะ เป็นฝ่ายรับบ้างจะดีกว่าค่ะ
2. ระบบ ตรวจพบว่าคุณพิมพ์ตัวอักษร ( ที่อ่านยาก ๆ ) ผิดหลายครั้งข้อนี้ ก็เป็นผลมาจากข้อ 1 ค่ะ อย่าดันทุรังค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ ให้คุณหยุดทันที แล้วค่อยไปเริ่มแอดใหม่ในวันถัดไป เพราะถ้าขืนดื้อดึง นอกจากคุณจะแอดเพื่อนไม่ได้แล้ว คุณยังเล่นอย่างอื่นไม่ได้ด้วย เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น 3. มีคนกด Block แจ้งไปที่ Facebook ว่าคุณกำลังไปรบกวนเวลาทำงานจนสร้างความรำคาญให้กับเขา หรือเขาอาจจะป้องกันเรื่องความปลอดภัยของเขาเองก็ได้ เพราะ Facebook มี ความเป็นส่วนตัวสูง ใครเข้าไปวุ่นวายมาก เขาก็อาจสั่ง Block เราได้ แบบนี้ ก็น่าสงสาร …ใจดำเหลือเกิน ไม่ยอมรับเรา แล้วยังมาทำกับเราแบบนี้อีก เซ็งเป็ดเลย ถ้าเป็นกรณีนี้ ข้อความจะขึ้นเตือนว่า “บล๊อก! คุณมีความประพฤติที่น่ารำคาญหรือไม่เหมาะสมโดยผู้ใช้อื่น ๆ … คุณถูกระงับการเพิ่มรายชื่อเพื่อน เนื่องจากมีการใช้งานที่ผิดปกติบ่อยครั้ง. การระงับนี้จะคงอยู่ไม่กี่ชั่วโมง ไปจนถึงหลายวันในทุก ๆส่วน. เมื่อคุณได้รับอนุญาตให้เพิ่มรายชื่อเพื่อนได้อีกครั้ง กรุณาดำเนินการด้วยความระมัดระวัง หากเกิดการระงับขึ้นอีกครั้ง บัญชีผู้ใช้ของคุณอาจจะถูกปิดอย่างถาวร” โหยยย… อ่านแล้วเสียว มันจะโหดอะไรขนาดน้าน … ก็มีคนเจอกันมาเยอะแล้วไงคะ เลยต้องรีบมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ให้ระมัดระวังกัน เพราะตัวดิฉันเองก็เพิ่งเจอมาสด ๆ ร้อน ๆ เหมือนกัน 4. การโพสต์บนกระดานข้อความมากเกินไป ก็โดนได้เหมือนกันค่ะวันนึงคุณเขียนกี่ข้อความคะ 5 หรือ 10 หรือจำไม่ได้ ถ้าคุณโพสต์แล้วข้อความไม่ขึ้น นั่นคือสัณญาณเตือนว่าคุณโพสต์มากเกินไป แต่ถ้าข้อความไม่ขึ้นเพราะระบบขัดข้อง ให้ลองใหม่คุณก็ลองใหม่ถ้าขึ้นก็จบไป แต่ถ้าไม่ขึ้นเลย คุณต้องหยุดทันทีนะคะ แล้วรอทำต่อในวันถัดไปนะคะ แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องโพสต์ข้อความนั้นซ้ำ ๆ บ่อย ๆ คุณควรจะดัดแปลงประโยคให้ดูแตกต่างจากของเดิมเล็กน้อย เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจจับ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยนักนะคะ เพราะถึง Headline จะแตกต่าง แต่เนื้อหาเหมือนเดิม ก็อาจจะถูกจับได้อยู่ดี 5. การแฝงเป็นคนอื่น และคนเดียวมีหลายบัญชี ข้อนี้ ไม่ควรกระทำอย่างยิ่งค่ะ การแฝงเป็นคนอื่น ก็คือ ใช้บัญชีผู้อื่นในการสร้างประโยชน์ของให้กับตัวเอง Facebook มีความสามารถพอ ที่จะตรวจจับได้ไม่ยาก หากสิ่งที่โพสต์ไปนั้น ไม่ใช่ตัวตนของเจ้าของบัญชีเลย และการที่คุณมีหลายบัญชี โดยใช้ชื่อเดียวกัน รูปภาพเดียวกัน ก็อาจจะโดนแบนทั้ง 2 บัญชีเลยก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพราะผิดกันเห็น ๆ 6. เนื้อหาและภาพที่โพสต์ ไม่เหมาะสมข้อนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่คำที่ไม่เหมาะสม หรือเนื้อหาส่อไปในทางที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม เน้นขายสินค้า หรือเน้นโปรโมทธุรกิจจนเกินไปรึเปล่า เช่น คำหยาบคาย, ข่มขู่, เกลียดชัง,สร้างความแตกแยก, ภาพโป้, ขายของ, ปล่อยไวรัส เป็นต้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ Facebook และอยู่ที่ตัวคุณเอง ว่าจะระมัดระวังได้แค่ไหน เพราะมีหลายคนที่ถูกปิดบัญชีไปโดยไม่รู้สาเหตุ ทั้ง ๆ ที่แอดเพื่อนวันละไม่ถึง 10 คนเลย ชื่อบัญชีก็ถูกต้อง แถมยังไม่เคยเข้ากลุ่มใครเลยด้วยซ้ำ เนื้อหาที่โพสต์ก็แค่คุยกันธรรมดา โดนปิดบัญชีเฉยเลยก็มี และข้อความสุดท้ายในชีวิต ที่คุณจะได้รับจากเจ้าพ่อ Facebook ก็คือ Account Disabled Your account has been disable by an administrator. If you have any questions or concerns, you can visit our FAQ page here. เตือนเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ยังไม่เข้าใจ ตอบมาเป็นภาษาอังกฤษ อย่างนี่แล้วจะหนาว … แปลให้เลยว่า บัญชีผู้ใช้งานของคุณถูกระงับ ถ้าคุณมีคำถามหรือข้องใจนักล่ะก็ มาดู ที่นี่ เลย ซึ่งในกรณีนี้ คนที่ถูกระงับบัญชี จะไม่มีวันได้ใช้บัญชีเดิมอีกเลย คำว่าบัญชีเดิมคือ ชื่อผู้ใช้,รูปภาพ, รายละเอียดที่เป็นข้อมูลเดิมของคุณทั้งหมด รวมไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ โน๊คบุ๊คที่คุณเคยใช้ชื่อเดิมในการ Login เข้า Facebook วิธีแก้ไข ก็คือ ขอเจรจาให้ Facebook เปิดบัญชีเดิมให้ใช้ได้ตามปกติ อาจจะได้นะคะ คุณต้องลองดู เพราะ Facebook จะดูความผิดคุณว่าหนักเบาแค่ไหน ควรแก่การให้อภัยหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่ค่อยได้ เพราะ 1. สื่อสารภาษาอังกฤษ คุยกันไม่รู้เรื่อง 2. ข้อหาหนักเกินกว่าจะให้อภัย ดังนั้น เมื่อไรที่มีสัญญาณเตือนจาก Facebook คุณจะต้องหยุดการกระทำนั้น ๆ ทันที ถ้า คุณยังขืนทำผิดอีก Facebook ก็จะแจ้งเตือนคุณทาง Email เพื่อตอกย้ำ ไม่ให้คุณละเมิดกฎ ครบ 3 ครั้งเมื่อไรบัญชีอันสวยงามของคุณก็จะหายวับไปแบบถาวร นั่นคือเมื่อคุณ Login เข้า Facebook ของคุณ แล้วเจอหน้าว่างเปล่า ขาว ๆ ไม่มีคำเตือนใด ๆอีกต่อไป นั่นแหละค่ะ คือจบบริบูรณ์ จูนไม่ติดกันเลยกับอนาคตใน Facebook ของคุณ
|