ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2553
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2553

แชร์กระทู้นี้

แนวข้อสอบพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2553
1.
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 เพื่อสิ่ง
ใดต่อไปนี้
ก. การบริหารและการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ
ข. การพัฒนาการศึกษาแก่นักเรียนทั้งสองระดับ
ค. นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา พัฒนาการศึกษาให้มีสัมฤทธิผลและมีคุณภาพยิ่งขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ
2.
การประกาศใช้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 อยู่ในหนังสือ
เล่มใด
ก. อยู่ในเล่ม 125 ตอนที่ 35
ข. อยู่ในเล่ม 127 ตอนที่ 45
ค. อยู่ในเล่ม 129 ตอนที่ 55
ง. อยู่ในเล่ม 131 ตอนที่ 65
3.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ฉบับปัจจุบัน เป็นฉบับที่เท่าไร
ก. ฉบับที่ 2
ข. ฉบับที่ 3
ค. ฉบับที่ 4
ง. ฉบับที่ 5
4.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ใช้เป็นปีที่เท่าไรในรัชการปัจจุบันข้อใดถูกต้อง
ก. เป็นปีที่ 35 ในรัชการปัจจุบัน
ข. เป็นปีที่ 45 ในรัชการปัจจุบัน
ค. เป็นปีที่ 55 ในรัชการปัจจุบัน
ง. เป็นปีที่ 65 ในรัชการปัจจุบัน
5.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ที่ปรับปรุงใหม่ มีกี่มาตรา
ก. 4 มาตรา
ข. 5 มาตรา
ค. 6 มาตรา
ง. 7 มาตรา
6.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ให้ไว้ ณ วันที่ใด
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ง. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
7.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ประกาศใช้ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ง. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
8.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ข. วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ค. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ง. วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
9.
ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับการตราพระราชบัญญัติ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553
ก. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดย คำแนะนำและยินยอมของสภาการศึกษาแห่งชาติ
ข. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดย คำแนะนำของสภาการศึกษาแห่งชาติ
ค. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ง. การตรา พรบ.ขึ้นไว้โดยคำแนะนำของรัฐสภา
10.
การยกเลิกความใน มาตรา 37 พรบ.กศช. 42 / 45 ใน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 เป็น มาตราใด
ก. มาตรา 3
ข. มาตรา 4
ค. มาตรา 5
ง. มาตรา 6
11. .
จากมาตรา 4 ของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ให้เพิ่มความ
ต่อไปนี้เป็นวรรคห้าของมาตราใดแห่ง พรบ.กศช. /2542 และ แก้ไข 2545
ก. มาตรา 37
ข. มาตรา 38
ค. มาตรา 39
ง. มาตรา 40
12.
ในมาตรา 3 ของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 และให้ใช้
ข้อความนี้แทน มาตรา 37 การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้สถานศึกษา
ได้ยึดอะไรเป็นสำคัญของมาตรานี้
ก. เขตพื้นที่การศึกษา
ข. ระดับของการศึกษา
ค. จำนวนสถานศึกษา
ง. จำนวนประชากร
13.
การกำหนดเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อการบริหารและจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน แบ่งเป็นเขตพื้นที่
ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในข้อใดเป็นผู้มีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ก. รัฐมนตรีโดยคำแนะนำและยินยอมของสภาการศึกษา
ข. รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
ค. รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของรัฐสภา
ง. คณะรัฐมนตรี
14.
กรณีเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจบริหารและจัดการได้ตามวรรคหนึ่ง ในการจัดการศึกษา
ในกรณีนี้ ข้อใดเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. กระทรวงศึกษาธิการ
ข. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
15.
การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานประกอบด้วยการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา
ซึ่งมีระบบการบริหารและการจัดการศึกษาของทั้งสองระดับรวมอยู่ในความรับผิดชอบของ
แต่ละเขตพื้นที่การศึกษา ข้อใดเป็นสาเหตุหลักที่ต้องตรา พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 ขึ้นมา
ก. เกิดความไม่คล่องตัว
ข. เกิดปัญหาการพัฒนาการศึกษา
ค. เกิดปัญหานักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การเรียนต่ำ
ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
16.
กระทรวงศึกษาธิการอาจจัดให้มีการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อเสริมการบริหารและการจัดการของ
เขตพื้นที่การศึกษาข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การจัดการศึกษาทางไกลและการให้บริการในเขตพื้นที่การศึกษา
ข. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จัดในรูปแบบการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัย
ค. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา 
ง. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ
17.
การแยกเขตพื้นที่มัธยมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มีกฎหมาย ตราเป็นพระราชบัญญัติ
เกี่ยวกับการแยกเขตพื้นที่มัธยมศึกษา มีทั้งหมดกี่ฉบับ
ก. จำนวน 1 ฉบับ
ข. จำนวน 2 ฉบับ
ค. จำนวน 3 ฉบับ
ง. จำนวน 4 ฉบับ
18.
ใครทำหน้าที่เป็นประธานคณะทำงานเตรียมข้อมูล ปรับลด- เพิ่ม จำนวนเขตพื้นที่การศึกษา
และร่างประกาศจัดตั้งเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
ก. นายชินภัทร ภูมิรัตน์
ข. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ
ค. นายธงทอง จันทรางศุ
ง. นาย
เฉลียว อยู่สีมารักษ์

19.
มาตราใดในพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553 กล่าวถึงสถานศึกษา
เอกชนและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.)
ก. มาตรา 4
ข. มาตรา 3
ค. มาตรา 2
ง. มาตรา 1
20.
ข้อใดกล่าวถึง มาตรา 2 ของ พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553
ได้ถูกต้อง
ก. พรบ.นี้ ใช้บังคับนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. พรบ.นี้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. พรบ.นี้ ใช้บังคับนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. พรบ.นี้ ให้ใช้บังคับนับแต่วันถัดจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
21.
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2553
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ประธานสภาผู้แทนราษฎร

จำหน่ายเอกสารคู่มือเตรียมสอบ ครผู้ช่วย กรมอาชีวศึกษา ครูผู้ช่วย กศน..ที่ใช้สอบทั่วประเทศ
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ  และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก

วิชาที่ใช้สอบ ครผู้ช่วย กรมอาชีวศึกษา
1.  ข้อสอบความรอบรู้ 
         1.1  นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
         1.2  กฎหมาย (พระราชบัญญัติ) ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ
                1.2.1  กฎหมายว่าด้วยการศึกษาชาติ
                1.2.2  กฎหมายว่าดัวยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
                1.2.3  กฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
                1.2.4  กฎหมายว่าดัวยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
                1.2.4  กฎหทายการบริหารและการจัดการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
2.  ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติ การปฏิบัติของวิชาชีพครู
         2.1  วินัยและการรักษาวินัย
         2.2  คุณธรรมจริยธรรม  และค่านิยม
         2.3  มาตรฐานวิชาชีพ
         2.4  จรรยาบรรณวิชาชีพ
         2.5  สมรรถนะวิชาชีพ
  - ข้อมูลเกี่ยวกับกรมอาชีวศึกษา 
 -  เหตุการณ์ปัจจุบัน ด้านสังคม  ด้านการเมืองการปกครอง   ด้านเศรษฐกิจ         

สั่งซื้อที่

ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724  Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท  ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3  ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 
ธ.กสิกรไทย  
ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay

ผลงานการสอบได้ของลูกค้า 
ติดตามข่าวการสอบราชการที่  https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่  www.ข้อสอบงานราชการไทย.com

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   085-0127724
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 
1. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ประกาศใช้เป็นปีที่เท่าใดในรัชกาลปัจจุบัน
ก. 65 ข. 66 ค.67 ง. 68
2. พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. 20 ก.ค. 2553 ข. 21 ก.ค. 2553
ค. 22 ก.ค. 2553 ง. 23 ก.ค. 2553
3. คำใดไม่มีใน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. ผู้สอน ข. ครู
ค. อาจารย์ ง. คณาจารย์
4. ข้อใดเป็นแนวการจัดการศึกษา
ก. การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด
ข. การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม
ค. การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี
ง. การจัดการศึกษาต้องจัดกระบวนการเรียนรู้พัฒนาผู้เรียนให้ครบทุกด้านตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
5. ข้อใดเป็นความมุ่งหมายในการจัดการศึกษา
ก. การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด
ข. การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม
ค. การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี
ง. การจัดการศึกษาต้องจัดกระบวนการเรียนรู้พัฒนาผู้เรียนให้ครบทุกด้านตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
6. ข้อใดเป็นหลักการในการจัดการศึกษา
ก. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ข. มีเอกภาพด้านนโยบายและมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
ค. มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาและจัดระบบการประกันคุณภาพ
ง. มีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน
7. การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม การสื่อสาร และการเรียนรู้ควรจัดในลักษณะใด
ก. เป็นพิเศษ ข. แรกเกิดหรือแรกพบความพิการตามความเหมาะสม
ค. แรกเกิดหรือแรกพบความพิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ง. รูปแบบที่เหมาะสม
8. ศูนย์การเรียน หมายถึง
ก. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ของสถาบันศาสนา
ข. ศูนย์ช่วยเหลือระยะเริ่มแรกของเด็กพิการ
ค. ศูนย์เด็กเล็ก
ง.องค์กรชุมชน
9. การจัดการศึกษาต้องเน้นความสำคัญด้านใด
ก. คุณภาพการศึกษาของผู้เรียน
ข. ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
ค. ภาษาไทย และวัฒนธรรมไทย
ง. ความรู้ คุณธรรม
10. การจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในวิชาใด
ก. ภาษาไทย
ข. สุขศึกษา และพลศึกษา
ค. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ง. ทุกวิชา
11. การประเมินผลของสถานศึกษาข้อใดผิด
ก. สังเกตพฤติกรรม
ข. สังเกตความประพฤติ
ค. เวลาเรียน
ง. การร่วมกิจกรรม
12. ใครเป็นผู้กำหนดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. กระทรวงศึกษาธิการ
ข. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ง. สถานศึกษา
13. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับความมุ่งหมายของสาระของหลักสูตร
ก. ความดีงาม ข.ความเป็นไทย
ค.ความเป็นพลเมืองที่ดี ง.การดำรงชีวิต
14. ข้อใดผิดเกี่ยวกับองค์คณะบุคคลในการจัดระเบียบบริหารราชการในกระทรวง
ก. สภาการศึกษา ข. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ง. คณะกรรมการการอุดมศึกษา
15. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีจำนวนเท่าใด
ก. 22 ข. 24 ค.26 ง.28
16. ข้อใดผิดเกี่ยวกับข้อคำนึงในการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ระดับของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ปริมาณสถานศึกษา
ค. จำนวนประชากร
ค. วัฒนธรรม
17. กรณีสถานศึกษาใดจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาการกำหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ใดให้เป็นไปตามคำแนะนำของใคร
ก. สภาการศึกษา
ข. กระทรวงศึกษาธิการ
ค. รัฐมนตรี
ง. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
18. กรณีสถานศึกษาใดจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาการกำหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ใดให้เป็นไปตามคำแนะนำของใคร
ก. สภาการศึกษา
ข. กระทรวงศึกษาธิการ
ค. รัฐมนตรี
ง. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
19. คำว่า เด็ก หมายความว่า
ก. เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่ 7 จนถึงอายุย่างเข้าปีที่ 16 เว้นสอบได้ปีที่ 9 ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่ 7 จนถึงอายุย่างเข้าปีที่ 16 เว้นสอบได้ปีที่ 9 ของการศึกษาภาคบังคับ
ก. เด็กซึ่งมีอายุเข้าปีที่ 7 จนถึงอายุย่างเข้าปีที่ 16 เว้นสอบได้ปีที่ 9 ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่ 7 จนถึงอายุเข้าปีที่ 16 เว้นสอบได้ปีที่ 9 ของการศึกษาภาคบังคับ
20. ผู้ใดปราศจากเหตุอันควรกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนจะต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี
ง.ปรับไม่เกิน 10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี
สั่งซื้อที่

ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724  Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท  ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3  ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 
ธ.กสิกรไทย  
ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay

[font=arial                              ]ผลงานการสอบได้ของลูกค้า 

ติดตามข่าวการสอบราชการที่  https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่  www.ข้อสอบงานราชการไทย.com

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   085-0127724
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

สามารถอัพโหลดไฟล์แนบ สำหรับโพสได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้