แนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ
Part
One: Language Use and Usage (Items 1 – 40)
1.
Oral Expression
Directions: Choose
the best answer.
1.1 Conversation
Conversation 1: Kitti, a Thai student in Australia, is looking
for an apartment.
Landlady : Hello, MC Apartment …….1………?
Kitti
: Have you got a room for rent?
Landlady : There’ll be one available at the end of
this week.
Kitti : Hmm, today is Thursday already. …….2…..?
Is it within walking distance of the
university ?
Landlady :
It’s on Prince Edward Street,
near the Science Museum. …..3…..And you’ll also
find a bus stop just around the corner
as well.
Kitti : …….4……Well, ……5……?
Landlady : It’s $150 per week, not including
utilities. The utilities will be charged according to
usage. Each room has got a separate
meter.
Kitti : I see. ……6 ……?
Landlady : I’m afraid I already have an appointment,
but I’ll probably be back at around 5.
…….7……?
Kitti : That’s fine for me. See you then. Bye.
Part
One
1. Oral Expression
บทสนทนาที่ 1 กิตติซึ่งเป็นนักเรียนไทยในออสเตรเลียกำลังมองหาห้องเช่า
1. 1. What do you want 2. Who do you want to talk to
3. Can I help you 4. Can I have your name , please
เฉลยข้อ
3 (Can I help you)
เหตุผล เจ้าของบ้านเช่า : สวัสดีค่ะ ที่นี่คือเอ็มซีอพาร์ทเมนต์……..?
กิตติ : มีห้องให้เช่าไหมครับ
ดูจากคำพูดของกิตติแล้ว
แสดงว่าเจ้าของอพาร์ทเมนต์ถามว่า มีอะไรให้ช่วยไหมคะ
ข้อ
3. จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
Can I help you? เป็นสำนวนที่ใช้ในการเสนอให้ความช่วยเหลือ
ข้อ 1. เป็นคำพดที่ไม่สุภาพ
ข้อ 2. และ
4. ไม่เข้ากับบทสนทนา
2. 1.
What is its location 2. What is it situated on
3. Where is the apartment 4.
Where can I look for MC Apartment
เฉลยข้อ
3 (Where is the apartment)
เหตุผล ดูจากคำถามถัดไปของกิตติที่ว่า
“อพาร์ทเมนต์อยู่ไก้ลขนาดสามารถเดินไปมหาวิทยาลัยหรือเปล่า”
แสดงว่ากิตติต้องถามว่า
อพาร์ตเมนต์อยู่ที่ไหน
ข้อ
3. จึงเป็นข้อที่ถูกต้อง
ในการถามถึงสถานที่ว่า
อยู่ที่ไหน จะใช้ Where
is……… ?
ข้ออื่น
ๆ ไม่ใช่สำนวนที่ถามเรื่องนี้
3. 1.
It’s easier to walk to the university
2. It’s a ten – minute walk to the university
3. I’m sure you have to walk to the university
4. I think it might be convenient getting to the
university
เฉลยข้อ
2 (It’s a ten – minute walk to the
university)
เหตุผล เป็นการตอบคำถามของกิตติที่ถามว่า
อยู่ที่ไหน และสามารถเดินไปมหาวิทยาลัยได้
หรือไม่
“อยู่ถนนพรินซ์
เอ็ดเวิร์ค ใกล้กับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เดินไปมหาวิทยาลัยใช้เวลา 10
นาที
นอกจากนี้ยังมีป้ายรถเมล์ตรงมุมถนนด้วย”
4. 1.
That’s amazing 2. That sounds good
3. That’s considerable 4. That looks interesting
เฉลยข้อ
2 (That’s considerable)
เหตุผล ดูจากเนื้อหาบทสนทนาที่เหลือจะเห็นว่า
กิตติสนใจที่จะเช่า
ข้อ 2. ฟังดูดีนะ จึงเป็นคำตอบ
ข้อ 1. น่าทึ่งจัง
(ต้องใช้เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงสิ่งที่ชวนประหลาดใจ)
ข้อ 3. Considerable = มากมาย
(ไม่ใช่สำนวนภาษาอังกฤษ)
ข้อ 4. ดูน่าสนใจ
(ต้องใช้เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจ)
5. 1.
how is the rent 2. how much will I rent it
3. how much is the rent 4.
how should I pay the rent
เฉลยข้อ
3 (how much is the rent)
เหตุผล ดูจากคำพูดของเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่บอกว่า
“ราคา 150
เหรียญต่อสัปดาห์ ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ”
แสดงว่ากิตติต้องถามถึงค่าเช่าห้อง
ข้อ 1. ต้องถามว่า What is
the rent
ข้อ
2. ไม่ใช่สำนวนภาอังกฤษ
ข้อ 3. ราคาเท่าไหร่
ข้อ
4. ถ้าถามแบบนี้
ต้องตบว่า จ่ายเป็นเงินสด หรือ เครดิตการ์ด
ข้อ 3. จึงเป็นข้อที่ถูกต้อง
6. 1.
Let’s have a look at the room, shall we
2. Should I see the room before I move in
3. Do I have to see the room this afternoon
4. Can I have a look at the room this afternoon
เฉลยข้อ
4 (Can I have a look at the room this
afternoon)
เหตุผล ดูจากคำพูดของเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่ว่า
“ฉันขอโทษที่ฉันติดธุระตอนนั้น
แต่อาจจะกลับมาตอนห้าโมงเย็น”
แสดงว่ากิตติขอแวะมาดูห้องตอนบ่าย
ข้อ 4. ขอผมดูห้องบ่ายนี้ได้ไหม
จึงเป็นข้อที่ถูกต้อง
7. 1.
Will you be home tomorrow 2. Why don’t you come on time
3. Do you want to come with me 4. Will you be able to drop by at that time
เฉลยข้อ
4 (Will you be able to drop by at
that time)
เหตุผล กิตติตอบว่า
“ได้ครับ แล้วพบกันตอนนั้น”
แสดงว่า
เจ้าของอพาร์ตเมนต์ถามกิตติว่า
“จะแวะมาดูห้องตอนเวลาห้าโมงได้ไหม”
ข้อ 1., 2. และ 3. ไม่เข้ากับบทสนทนา
Conversation 2: Arnat is inviting Paul and his family to dinner
at the house.
Aenat :
……8…..next Saturdar evening.
Paul :
Oh, dear! ……9 ….. this Saturday. My daughter is rehearsing a play at her
school.
Arnat :
Oh, really! What about Sunday evening? .....10…..
Paul :
That’ll be fin. ……11….. . We would be delighted to come.
Err…, ….12….. .
Arnat :
Well, my wife just got a promotion and my daughter has been accepted at
top ten
University, so we’re having a little
celebration.
Pual :
…..13 …..! What time should we get to your housr?
Arnat :
…..14…..?
Paul :
Fine. …..15….. .
บทสนทนาที่ 2 อาณัติกำลังเชิญพอลและครอบครัวมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน
8. 1.
We’d like to persuade you to have dinner with us
2. We’d like to have you and your family over
for dinner
3. Let you and your family have dinner together
at my house
4. I coffee you and your family to come to my
house for dinner
เฉลยข้อ
2 (We’d like to have you and your
family over for dinner)
เหตุผล อาณัติ : …………..เย็นวันเสาร์หน้า
พอล : เสียดายจัง ! ………เสาร์นี้ ลูกสาวของผมต้องซ้อมละครที่โรงเรียน
อาณัติ : เหรอครับ ! ถ้างั้นเย็นวันอาทิตย์ล่ะ ……….
ดูจากบทสนทนาแสดงว่า
อาณัติเชิญพอลและครอบครัวมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน
to have someone over
= เชิญมาที่บ้าน
ข้อ 1. ใช้ persuade ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็น invite
ข้อ
3. ไม่ใช่สำนวนที่ใช้ในการเชิญชวน
ข้อ 4. ไม่ใช้ offer กับการเชิญ
ข้อ 2. ขอเชิญคุณและครอบครัวมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน
ข้อนี้ถูกต้อง
9. 1.
I don’t think we like it 2. I’m afraid we can’t make it
3. What a shame! No one can go 4. Sorry about that. Everyone will be busy
เฉลยข้อ
2 (I’m afraid we can’t make it)
เหตุผล เมื่อได้รับเชิญ แต่ไปไม่ได้
ต้องใช้ข้อ 2.
“ผมเกรงว่า
เราจะไปไม่ได้”
สำนวนที่ใช้ตอบปฏิเสธคำเชิญอื่น
ๆ ได้แก่
I’d love but …………..
I’m sorry I
can’t make it.
Thank you for
asking but I’m afraid I can’t
ข้อ
3. และ 4. ไม่สุภาพที่จะตอบเช่นนี้
10. 1.
It’s a pity if you miss it 2. We expect you to be free
3. It’ll be convenient for me 4. We really want you to join us
เฉลยข้อ
4 (We really want you to join us)
เหตุผล การที่อาณัติเลื่อนเชิญไปเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็น
แสดงว่า อาณัติอยากให้พอลและ
ครอบครัวมาที่บ้านจริง
ๆ
ข้อ 4. จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
“เราอยากให้คุณมารับประทานอาหารเย็นกับเราจริง
ๆ”
ข้อ
1. น่าเสียดายนะถ้าคุณมาไม่ได้
ข้อ 2. เราคาดหวังว่าคุณจะว่าง
ข้อ 3. มันสะดวกสำหรับผม
11. 1.
I’d like to eat out 2.
We all like to be invited
3. Everybody is free on Sunday 4. I appreciate the appointment
เฉลยข้อ
3 (Everybody is free on Sunday)
เหตุผล That’ll be fine = ตกลงครับ
แสดงว่า
วันอาทิตย์ทุกคนว่าง
ข้อ 1. ผมชอบกินข้าวนอกบ้าน
ข้อ 2. เราทุกคนชอบที่จะได้รับเชิญ
ข้อ 3. ทุกคนว่างวันอาทิตย์
ข้อ 4. ผมขอบคุณที่นัดผม
ข้อ 3. เป็นข้อที่เข้ากับบทสนทนาที่สุด
12. 1.
Tell me with you all are doing 2. Thai sounds like a special occasion
3. you must be please with something 4.
Let me know why you are inviting us
เฉลยข้อ
2 (Thai sounds like a special
occasion)
เหตุผล ดูจากคำพูดของอาณัติที่บอกว่า
“ภรรยาของผมได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
และลูกสาวของผมได้รับการตอบรับให้เข้า
ศึกษาที่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดอันดับท็อปเทน
เราเลยอยากมีงานฉลองเล็ก ๆ”
แสดงว่า พอลต้องพูดว่า ‘ฟังดูแล้วเหมือนโอกาสพิเศษ’
ข้อ 2. เป็นข้อที่ถูกต้อง
ข้ออื่น
ๆ ไม่ใช่สำนวนที่ใช้ในการถามแบบนี้
13. 1.
How happy 2. Good luck
3. Congratulations 4. What a surprise
เฉลยข้อ
3 (Congratulations )
เหตุผล พอลกล่าวแสดงความยินดีกับอาณัติ
ต้องใช้ข้อ 3.
Congratulations สำนวนอื่นที่ใช้ได้
เช่น How wonderful !
That’s wonderful!
ข้อ
1. ไม่ใช่สำนวน
ถ้าจะใช้ต้องพูดว่า
I’m happy for you
ข้อ
2. Good Luck! ใช้เมื่ออวยพรให้โชคดี
ข้อ 4. What a surprise! จะใช้เมื่อเจอกับเหตุการณ์หรือสิ่งที่ไม่คาดฝัน
(ในทางดี)
14. 1.
Can I let you know later 2. Do you want to
come early
3. Is 6:30 convenient for you 4. 6:30 is a suitable time, isn’t it
เฉลยข้อ
3 (Is 6:30 convenient for you)
เหตุผล พอล : จะให้เราไปถึงบ้านคุณกี่โมง
อาณัติ :
……….?
พอล : ครับ ………… .
ดูจากบทสนทนาแล้วต้องเลือกข้อ
3.
“มาถึงตอน
6 โมงเย็นได้ไหมครับ”
ข้อ
1. และ 2. ใช้ไม่ได้
เพราะอาณัติได้บอกเวลาแล้วว่าให้มาตอนหกโมงครึ่ง
ข้อ 3. ถ้าจะใช้ต้องเปลี่ยนเป็น ‘Is
6:30 a suitable time for you’
15. 1.
We hope to enjoy the dinner 2. We won’t be late for dinner
3. We’re looking forward to it 4. We’d love to be at your house
เฉลยข้อ
3 (We’re looking forward to it)
เหตุผล สำนวน look forward to
something จะใช้เมื่อผู้พูดคาดหวังที่จะได้พบเจอกับสิ่งนั้น
ในที่นี้หมายถึงว่า
พอลและครอบครัวต่างรอใจจดใจจ่อที่จะได้ไปรับประทานอาหาร
เย็นเองที่บ้านอาณัตินั่นเอง
ข้อ 1. เราหวังว่าจะชอบอาหารเย็น
ข้อ 2. เราจะไม่ไปสายสำหรับอาหารเย็น
ข้อ 3. เรารอคอยที่จะได้ไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านคุณ
ข้อ 4. เราอยากไปบ้านของคุณ
ข้อ
3. เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
1.2 Situational Dialogs
ข้อ 16. – 25. เป็นบทสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ
16. You want to know about your roommate’s
future plans, so you say: ……….
1. When do you plan to graduate? 2. Where do you stay while studying?
3. What are you doing after graduation? 4. Why
do you want to further your study?
เฉลยข้อ
3 (What are you doing after
graduation?)
เหตุผล คุณอยากรู้เกียวกับแผนในอนาคตของเพื่อนร่วมห้องของคุณ
ดังนั้น คุณจะพูดว่า ……
“คุณคิดจะทำอะไรหลังจากเรียนจบ”
ข้อ
1. คุณวางแผนที่จะจบเมื่อไหร่
ไม่ถูกเพราะไม่ได้ถามรายละเอียดเรื่องอนาคต
หลังเรียนจบ
ข้อ 2. คุณอยู่ที่ไหนระหว่างศึกษาต่อ
ไม่ถูกเพราะไม่เกี่ยวกับแผนในอนาคต
ข้อ 4. ทำไมคุณถึงอยากเรียนต่อ
ไม่ถูกเพราะไม่ได้ถมถึงแผนในอนาคต
ข้อ
3. เป็นข้อที่ถูกต้อง
17. You ask a stranger for the time. He
doesn’t know the time, so he say: ………
1. I’m afraid I don’t know 2. I’m sorry. I have no time
3. Sorry, I’ve just bought this watch 4.
Please don’t ask me about the time.
เฉลยข้อ
1 (I’m afraid I don’t know)
เหตุผล คุณถามเวลากับคนแปลกหน้า
เขาไม่รู้เวลา ดังนั้นเขาจะพูดว่า…….
“ขอโทษที่ผมไม่รู้”
สำนวนที่ตอบปฏิเสธ
จะใช้ I’m afraid ขึ้นต้น
เช่น
I’m afraid I can’t.
ข้อ
2. ถ้าพูดอย่างนี้
ต้องถามว่า Have you got time?
ข้อ
3. ขอโทษที
ผมเพิ่งซื้อนาฬิกาเรือนนี้
ไม่ใช่การตอบปฏิเสธ
ข้อ
4. อย่าถามผมเรื่องเวลา
ไม่ใช่สำนวนที่ใช้
ข้อ
1. เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
18. You are thirsty. You say to your
friend: …….
1. Would you mind having a drink? 2.
Shall we get something to drink?
3. What do you think about cold drinks? 4. Why
don’t you get me some soft drinks?
เฉลยข้อ
2 (Shall we get something to drink?)
เหตุผล คุณกระหายน้ำ
คุณจะพูดกับเพื่อนว่า…….... “เราจะไปหาอะไรดื่มกันไหม”
ข้อ
1. คุณจะว่าอะไรไหมถ้าจะดื่มอะไรสักแก้ว
ข้อ 3. คุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเครื่องดื่มเย็น
ๆ
ข้อ 4. ทำไมคุณไม่หาเครื่องดื่ม
(ที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์) มาให้ฉัน
ข้อ
1.,3.,
4. ไม่เข้ากับบทสนทนาจึงต้องเลือกข้อ 2.
19. You want to know what your American
friend who is here visiting you thinks of Bangkok.
You say: …….
1. How do you fine Bangkok? 2. What dose Bangkok look like?
3. Have
you ever been to Bangkok? 4. Did you visit all places in Bangkok?
เฉลยข้อ
1 (How do you fine Bangkok?)
เหตุผล คุณอยากรู้ว่า
เพื่อนชาวอเมริกันของคุณที่กำลังมาเยี่ยมคุณ คิดอย่างไรเกี่ยวกับกรุงเทพฯ
คุณจะพูดว่า ……..
“คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับกรุงเทพฯ”
สำนวนที่ใช้ในการถามความเห็นได้แก่
How do you find…….?
What
do you think of………?
What’s
your opinion of……..?
How
do you feel about………?
ข้อ
2. เป็นคำถามให้บรรยายเกี่ยวกับกรุงเทพฯ
ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร
20. A secretary is late for a meeting for
the first time. She gives an excuse that she had to take
her son to the doctor. Her boss
say: ……
1. I
see, but I don’t want any excuses. 2. Again? That’s the same old excuse.
3. That’s all right. Don’t worry about it. 4. You never change! You’re always late.
เฉลยข้อ
3 (That’s all right. Don’t worry
about it.)
เหตุผล เลขานุการประชุมสายเป็นครั้งแรก
เธอแก้ตัวว่า ต้องพาลูกชายไปหาหมอ
เจ้านายของเธอพูดว่า
………. “ไม่เป็นไร อย่ากังวลไปเลย”
สำนวนที่ใช้ในการตอบรับคำขอโทษ/คำแก้ตัว คือ
That’s all tight
Don’t
worry (about it)
That’s
OK.
ข้อ
1. ไม่สุภาพที่จะพูดเช่นนี้
เพราะเลขานุการไทเคยมาสายมาก่อน
ข้อ 2. และ 4. ใช้ไม่ได้
เพราะ เลขานุการมาสายเนครั้งแรก
21. The pipe in your bathroom has started
making a loud noise, so you call the landlady’
She say: …….
1. Well,
too bad. The plumber just left.
2. It’s
a pity! You’d better wait until I know what to do.
3. Don’t
worry! Let me think of a way to solve the problem.
4. That
doesn’t sound good! I’ll send a plumber up right away.
เฉลยข้อ
4 (That doesn’t sound good! I’ll send
a plumber up right away.)
เหตุผล ท่อในห้องน้ำของคุณเริ่มส่งเสียงดัง
ดังนั้นคุณจึงโทรศัพท์ไปหาเจ้าของห้องเช่า
เธอพูดว่า …….
“ฟังไม่เข้าทีเลย
ฉันจะส่งช่างประปา (plumber) ขึ้นไปที่ห้องคุณทันที”
ข้อ
1. แย่หน่อยนะ
แต่ช่างประปาเพิ่งออกไป
ข้อ 2. แย่จัง คุณควรรอจนกว่าฉันจะรู้ว่าจะทำอย่างไร
ข้อ 3. อย่ากังวลไปเลย
ขอให้ฉันคิดหาวิธีแก้ปัญหาก่อน
ข้อ
1., 2. และ 3. ไม่เข้ากับบทสนทนาจึงใช้ไม่ได้
22. You have just said something which
makes your friend very upset. You apologize to her
You say: ……
1. I
beg your pardon. It’s really my fault.
2. How
talkative I am! Please forgive me for that.
3. What
a silly thing! I hope you don’t mind me saying that.
4. I’m
terribly sorry for what I said just now. I didn’t mean it.
เฉลยข้อ
4 (I’m terribly sorry for what I said
just now. I didn’t mean it.)
เหตุผล คุณเพิ่งพูดบางอย่างที่ทำให้เพื่อนของคุณไม่พอใจ
คุณขอโทษเธอ คุณพูดว่า………
“ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผมพูดตะกี้
ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
ข้อ
1. ไม่ถูก I
beg your pardon เป็นสำนวนที่จะใช้เมื่อขอให้คู่สนทนาพูดซ้ำ
ข้อ 2. ไม่ถูก เพราะคุณต้องขอโทษที่เผลอพูดออกไป
ไม่ใช่ขอโทษเพราะช่างพูด
ข้อ 3. ไม่ถูก
เพราะเพื่อนไม่พอใจแล้วจะมาขอให้ไม่ถือที่พูดออกไปไม่ได้
ข้อ
4. เป็นข้อที่ถูกต้อง
23. Your friend has to visit a customer
upcountry tomorrow, and he asks you to work for him.
You say: ……
1. OK,
I’ll take care of it. 2. Have a good time, then.
3. I would rather not go with you 4.
You could go wherever you like.
เฉลยข้อ
1 (OK, I’ll take care of it.)
เหตุผล เพื่อนของคุณต้องไปเยี่ยมลูกค้าทางเหนือ
(upcountry)
ในวันพรุ่งนี้ และเขาขอให้
คุณทำงานแทนเขา
คุณพูดว่า……..
“ได้เลย ผมจะดูแลงานของคุณเอง”
ข้อ
2., 3. และ 4 ไม่ใช่
สำนวนที่ใช้ตอบรับการขอร้อง
สำนวนตอบรับการขอร้อง
ได้แก่
All right
OK.
Certainly
I’d
be glad to
24. There is a phone call for a person who
doesn’t work in your office. You answer the phone
And say: ……
1. Who
are you talking to? 2. Isn’t that a strange name?
3. Nobody by that name works here. 4.
No one has ever seen him before.
เฉลยข้อ
3 (Nobody by that name works here)
เหตุผล มีโทรศัพท์ถึงคนที่ไม่ได้ทำงานในสำนักงานของคุณ
คุณรับสายและพูดว่า ……..
“ไม่มีคนชื่อนั้นทำงานที่นี่”
ข้อ
1. คุณกำลังพูดกับใคร
ข้อ 2. นั่นเป็นชื่อที่แปลกมิใช่หรือ
ข้อ 4. ไม่เคยมีใครเห็นเขามาก่อน
ดูจากเนื้อเรื่องแล้วข้อ
3. เป็นข้อเดียวที่เข้ากับเรื่อง
25. You and your friend have been waiting
half an hour for another friend who has not yet shown
up at the cinema. The movie has
already started. You say : …….
1. He
can’t forget us. 2. He will never forget the date.
3.
He should not forget the time 4. He must have forgotten our appointment.
เฉลยข้อ
4 (He must have forgotten our
appointment.)
เหตุผล คุณและเพื่อนของคุณ
รอเพื่อนอีกคนที่ยังไม่มาที่โรงหนังนานถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว
หนังเริ่มฉาย
คุณจะพูดว่า ……….
“เขาคงลืมนัดของเราเสียแล้ว”
ใช้
must + perfect infinitiye กับการคาดคะเนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต
2. Error Identification
Directions :
Four parts of each sentence below are underlined and marked with the
numbers 1.,2., 3. and 4. Identify the
underlined part that makes the
sentence incorrect.
26. Some department stores have been such
successful that branches of the stores have been
1 2
opened under the same name
in more than one large
city .
3 4
เฉลยข้อ
1 (such successful)
เหตุผล ที่ถูกต้องเป็น so successful
So + adj + that
(ถ้าจะใช้
such ต้องตามด้วย noun)
27. Peter thinks that he had
better don’t quit
his job until he finds another one.
1 2 3 4
เฉลยข้อ
3 (don’t quit)
เหตุผล ที่ถูกต้องเป็น not quit
Had
better + not + verb ช่อง 1
28. The flight was scheduled to take
off at 2:30 p.m., but due to some mechanical problems, it
1 2
was delayed for mostly
three hours .
3 4
เฉลยข้อ
4 (mostly)
เหตุผล ที่ถูกต้องเป็น almost หรือ nearly มีความหมายว่า เกือบ
เช่น It’s almost /
nearly ten o’clock ส่วน mostly = ส่วนใหญ่
เช่น My friends are mostly
non - smokers
29. When Mr.Suki, the new
representative from Japan, starting his new job in Thailand, he
had
1 2
difficulty communicating with the
employees .
3 4
เฉลยข้อ
2 (starting)
เหตุผล ที่ถูกต้องเป็น started เพราะเป็น verb แท้ ของประธานคือ Mr. Suki จะใช้
Starting ได้ก็ต่อเมื่อเป็น reduced clause เท่านั้น
30. Primitive people used dyes of vegetable
origin to color their bodies, believed that
certain
1 2 3
colors, notably
red, could drive out evil spirits or illness .
4
เฉลยข้อ
3 (believed)
เหตุผล ที่ถูกต้องเป็น believing เพราะในประโยคนี้มี verb แท้แล้วคือ used ดังนั้นต้อง
ทำให้ verb อีกตัวอยู่ในลักษณะ
participle ประธานของ believing คือ Primitive
people
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบผู้ช่วยพัฒนาธุรกิจ ธ.ก.ส. ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวม 300 หน้า
- แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับธนาคาร ธกส.
- ความรู้เกี่ยวกับ ธ.ก.ส.
- การใช้ภาษา_แนวข้อสอบ
- ความเข้าใจภาษา_แนวข้อสอบ
- แนวข้อสอบความละเอียดแม่นยำ ด้านมิติสัมพันธ์
- ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ_แนวข้อสอบ
- แนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ
- แนวข้อสอบ ข่าว และเหตุการณ์ปัจจุบัน การเมืองเศรษฐกิจและ สังคม
- สรุปสาระสำคัญของประชาคมอาเซียน
- แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อ
- แนวข้อสอบ ธกส พัฒนาธุรกิจ 200 ข้อเฉลยละเอียด
ความรู้เกี่ยวกับธนาคาร เศรษฐกิจ สังคมการเมือง การพัฒนาชนบท/ชุมชน การตลาด การให้บริการที่ดี
หลักการบริหารเบื้องต้น ความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อ/บัญชีเบื้องต้น จริธรรม/จรรยาบรรณ
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +VCD คณิศาสตร์+ภาษาไทย ราคา 679 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย
สาขาบิ๊กซีขอนแก่น ชื่อบัญชี เดโช พระกาย ออมทรัพย์
โอนเงินแล้วแจ้งที่ decho.by@hotmail.com
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบผู้ช่วยการเงิน ธ.ก.ส. ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวม 280 หน้า
- แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับธนาคาร ธกส.
- ความรู้เกี่ยวกับ ธ.ก.ส.
- การใช้ภาษา_แนวข้อสอบ
- ความเข้าใจภาษา_แนวข้อสอบ
- แนวข้อสอบความละเอียดแม่นยำ ด้านมิติสัมพันธ์
- ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ_แนวข้อสอบ
- แนวข้อสอบ ข่าว และเหตุการณ์ปัจจุบัน การเมืองเศรษฐกิจและ สังคม
- แนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ
- แนวข้อสอบการเงินและบัญชี เฉลยละเอียด
- แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับการเงินและการงานคลัง
- หลักการบัญชีเบื้องต้น
- สรุปสาระสำคัญของประชาคมอาเซียน
สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
ผลงานการสอบได้ของลูกค้า
ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com