1. ไปรษณียบัตรในประเทศมีอัตราค่าบริการฉบับเท่าใด
ก. 1 บาท ข. 1.50 บาท
ค. 2 บาท ง. 2.50 บาท
ตอบข้อ ค. ปัจจุบันในการส่งไปรษณียบัตรภายฝนประเทศมีอัตราค่าบริการฉบับละ 2 บาท
2. ปณ . ย่อมาจากอะไร
ก. ไปรษณีย์ ข. ตู้ไปรษณีย์
ค. บุรุษไปรษณีย์ ง. ที่ทำการไปรษณีย์
ตอบข้อ ง. ปณ . ย่อมาจาก “ ที่ทำการไปรษณีย์”
3. ปณฝ. ย่อมาจากอะไร
ก. ไปรษณีย์นำฝาก ข. ไปรษณีย์รับฝาก
ค. ที่ทำการไปรษณีย์นำฝาก ง. ที่ทำการไปรษณีย์รับฝาก
ตอบข้อ ง. ปณฝ. ย่อมาจาก “ ที่ทำการไปรษณีย์รับฝาก”
20. ในปัจจุบันในการส่งจดหมายภายในประเทศมีอัตราค่าบริการเท่าใด
ก. 2 บาท ข. 2.50 บาท
ค. 3 บาท ง. 4 บาท
ตอบข้อ ค. ในการส่งจดหมายธรรมดา น้ำหนักไม่เกิน 20 กรัม มีอัตราค่าบริการ 3 บาท
4. ไปรษณียภัณฑ์คืออะไร
ก. จดหมาย ข. ไปรษณียบัตร
ค. ห่อพัสดุ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. ไปรษณียภัณฑ์ หมายความว่า จดหมาย ไปรษณียบัตร ไปรษณียบัตรตอบรับ หนังสือกิติยศดี ตัวอย่างหรือแบบสินค้า ของตีพิมพ์ทุกชนิด หนังสือพิมพ์ลงทะเบียน ห่อจดหมาย ห่อพัสดุ ธนาณัติ เช็คไปรษณีย์ หรือวัตถุอย่างอื่นที่นำมาใช้ในการสื่อสารไปรษณีย์
5. ใครมีอำนาจออกกฎระเบียบเพื่อกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมในการส่งไปรษณียภัณฑ์
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรี
ค. อธิบดี ง. ผู้อำนวยการ
ตอบข้อ ข. รัฐมนตรี มีอำนาจออกกฎระเบียบเพื่อกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมในการส่งไปรษณียภัณฑ์ ทางไปรษณีย์ภายในราชอาณาจักรตามความในพระราชบัญญัตินี้ หรือเกี่ยวแก่ไปรษณียภัณฑ์ต่างประเทศ ซึ่งมีบทกำหนดไว้ตามสัญญาสากลไปรษณีย์และวางข้อบังคับกำหนดข้อสัญญาเงื่อนไขในการเรียกเก็บไปรษณียากรตามที่กำหนดไว้นั้น
6. กรณีมีค่าไปรษณียากรค้างชำระอยู่ ผู้รับไปรษณียภัณฑ์จะปฏิเสธไม่ชำระได้ด้วยเหตุใด
ก. แจ้งกับบุรุษไปรษณีย์ว่าให้เรียกเก็บแก่ผู้ส่งไปรษณียภัณฑ์
ข. ไปรษณียภัณฑ์น้ำหนักไม่เกิน 0.5 กรัม
ค. ไปรษณียภัณฑ์มีไม่เกิน 2 ชิ้น
ง. ส่งคืนไปรษณียภัณฑ์ทันทีโดยไม่เปิดผนึก
ตอบข้อ ง . ผู้รับไปรษณียภัณฑ์ซึ่งยังไม่มีไปรษณียากรหรือค่าธรรมเนียมอื่นที่ต้องเสียตามพระราชบัญญัตินี้ค้างอยู่จำต้องชำระค่าไปรษณียากรหรือค่าธรรมเนียมอื่นนั้นในขณะที่รับไปรษณียภัณฑ์ เว้นแต่จะต้องส่งคืนเสียทันทีโดยไม่เปิดผนึกหรืออ่านข้อความ
7. ใครมีอำนาจเปลี่ยนแปลงราคาตราไปรษณียากร
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรี
ค. อธิบดี ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบข้อ ข. ให้รัฐมนตรีจัดให้มีตราไปรษณียากรชนิดต่างๆและบอกมูลค่าตามที่เห็นว่าจำเป็นและให้มีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขราคาตราไปรษณียากรนั้น เพื่อปฏิบัติการให้ป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ตราไปรษณียากรที่จัดให้มีขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขราคานั้น ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
8. ข้อใดเป็นอำนาจการออกข้อบังคับของอธิบดี
ก. การจ่าย ขาย เก็บรักษาและใช้ตราไปรษณียากร
ข. การกำหนดราคาตราไปรษณียากรที่จะขาย
ค. การกำหนดหน้าที่และสินจ้างที่ให้แกผู้ขายตราไปรษณียากร
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. โดยอัตโนมัติของรัฐมนตรี อธิการบดีอาจออกข้อบังคับ
1. ว่าด้วยการจ่าย ขาย เก็บรักษาและใช้ตราไปรษณียากร
2. กำหนดราคาตราไปรษณียากรที่จะขาย
3. ระบุบุคคลที่จะขายตราไปรษณียากร กับวางอัตราและเงื่อนไขในการขาย
4. กำหนดหน้าที่และสินจ้างที่ให้แกผู้ขายตราไปรษณียากร
5. วางเงื่อนไขในการปรุตราไปรษณียากร การลบเลื่อน ทำให้เสียสภาพและว่าด้วยตราไปรษณียากรอย่างใดควรรับหรือไม่ควรรับไว้ใช้เป็นค่าไปรษณียากรหรือค่าธรรมเนียมอื่น
6. แสดงประเภทไปรษณียภัณฑ์ที่อาจเสียไปรษณียากรเป็นเงินและใช้เครื่องหมายอย่างอื่นประทับแทนตราไปรษณียากรเป็นค่าไปรษณียากรหรือค่าธรรมเนียมอื่นที่จะต้องเสียตามพระราชบัญญัตินี้
7. ว่าด้วยกิจการอย่างอื่นทั่วไปที่เกี่ยวแก่ตราไปรษณียากร
9. กรณีที่ถือว่าไปรษณียภัณฑ์อยู่ในระหว่างส่งทางไปรษณีย์คือข้อใด
ก. เวลาที่ได้สอดลงในตู้
ข. เวลาที่ได้มอบให้แก่เจ้าพนักงานประจำ
ค. เวลาที่ได้ส่งถึงผู้รับ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง . ไปรษณียภัณฑ์นั้นได้ถือว่าอยู่ในระหว่างส่งทางไปรษณีย์ ตั้งแต่เวลาที่ได้สอดลงในตู้ไปรษณีย์ หรือได้มอบให้แก่เจ้าพนักงานประจำที่ทำการไปรษณีย์ จนถึงเวลาที่ได้ส่งถึงผู้รับหรือส่งกลับคืนมายังผู้ฝาก หรือได้จัดการเป็นอย่างอื่นตามพระราชบัญญัตินี้
10. ไปรษณียภัณฑ์ใดที่ไม่ต้องห้ามส่งทางไปรษณีย์
ก. วัตถุมีคมที่มีเครื่องหุ้มห่อ ข. สิ่งมีชีวิต
ค. สิ่งโสโครก ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ก. ห้ามมิให้บุคคลใดส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งวัตถุมีคมที่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกันพอหรือวัตถุระเบิดหรือสิ่งโสโครกหรือสิ่งมีพิษหรือสัตว์มีชีวิต หรือสิ่งของที่จะมีสภาพอันน่าจะก่อให้เกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ไปรษณียภัณฑ์ในระหว่างส่งทางไปรษณีย์หรือแก่เจ้าพนักงาน เว้นไว้แต่จะมีข้อบังคับหรือเงื่อนไขกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น
11. กรณีที่มีการส่งไปรษณีย์ที่ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติ ไปรษณีย์ไทย พ.ศ. 2477 อธิบดีมีอำนาจกระทำการใด
ก. ส่งคืนกลับไปยังผู้ฝาก
ข. ทำลายเสีย และแจ้งให้ผู้ฝากทราบ
ค. ส่งไปยังพนักงานเจ้าหน้าที่ หากมีเหตุสงสัยว่าเป็นความผิดทางอาญาและฟ้องร้องดำเนินคดี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง . ไปรษณียภัณฑ์ใดที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ อธิบดีมีคำสั่งตามควรแก่กรณีกล่าวคือ
1. ให้กักไว้หรือส่งต่อไปหรือส่งกลับคืนไปยังผู้ฝาก หรือให้จำหน่ายเป็นอย่างอื่น
2. ให้เปิดตรวจหรือทำลายเสียได้ ถ้าจำเป็นและเมื่อทำลายแล้วให้แจ้งไปให้ผู้รับฝาก
3. ให้ส่งต่อไปยังพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อมีเหตุสงสัยว่าเป็นความผิดทางอาญาเพื่อจัดการฟ้องร้อง
12. กรณีใดที่ไปรษณีย์ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีไปรษณียภัณฑ์แตกหักหรือสูญหาย
ก. เกิดเหตุสุดวิสัย ข. เกิดจากสภาพแห่งไปรษณียภัณฑ์นั้นเอง
ค. เกิดจากความผิดของผู้ฝาก ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง . กรมจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีไปรษณียภัณฑ์ลงทะเบียนสูญหายไปหรือไปรษณียภัณฑ์ประกันแตกหัก หรือสูญหายไปในระหว่างส่งไปรษณีย์ตามข้อบังคับที่ใช้อยู่เวลานั้น เว้นไว้แต่การแตกหักหรือสูญหายนั้น เกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดแต่สภาพไปรษณียภัณฑ์นั้นเอง หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ฝากหรือผู้รับ
13. กรณีที่ไปรษณีย์จะต้องใช้ราคาไปรษณียภัณฑ์ที่แตกหักหรือสูญหายจะต้องชดใช้ในราคาตามข้อใด
ก. ราคาไม่เกิน 10 % ของราคาไปรษณียภัณฑ์
ข. ราคาไม่เกิน 50 % ของราคาไปรษณียภัณฑ์
ค. ราคาที่ผู้ฝากได้แจ้งราคาราคาไปรษณียภัณฑ์ไว้
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบข้อ ค. เมื่อกรมจะต้องใช้ราคาไปรษณียภัณฑ์ที่แตกหักหรือสูญหายไปนั้น โดยที่ผู้ฝากได้ระบุแจ้งราคาไว้แล้วให้ถือว่าการระบุแจ้งราคาไว้นั้น เป็นข้อสันนิษฐานว่าไปรษณียภัณฑ์นั้นมีราคาตามตามที่ได้ระบุแจ้งไว้ แต่ทั้งนี้ผู้ฝากจะเรียกค่าสินไหมทดแทนเกินกว่ากำหนดราคาที่ได้ระบุแจ้งไว้นั้นหาได้ไม่
14. ห้ามฟ้องให้ไปรษณีย์รับผิดชดใช้ราคาไปรษณียภัณฑ์แตกหักหรือสูญหาย ไม่เกินเวลาเท่าใด
ก. 6 เดือน ข. 1 ปี
ค. 2 ปี ง. 3 ปี
ตอบข้อ ข. ในเรื่องความผิดของกรมในการที่ไปรษณียภัณฑ์แตกหักหรือสูญหายนั้น ห้ามมิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่วันส่งมอบ หรือวันที่ควรจะได้ส่งมอบ
15. ไปรษณียภัณฑ์ที่ไม่สามารถจัดการส่งได้ต้องกระทำตามข้อใด
ก. กรณีเป็นจดหมายและไปรษณียบัตรให้ทำลาย
ข. กรณีเป็นทรัพย์สินที่ไม่อาจเสื่อมศูนย์โดยสภาพให้กักเอาไว้ 1 ปีเมื่อพ้นกำหนดให้ตกเป็นของรัฐบาล
ค. กรณีเป็นทรัพย์สินที่ไม่อาจเสื่อมศูนย์โดยสภาพให้กักเอาไว้ 2 ปีเมื่อพ้นกำหนดให้ตกเป็นของรัฐบาล
ง. ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบข้อ ง . ไปรษณียภัณฑ์ที่ส่งไม่ได้สามารถจัดการให้เป็นไปตามมาตรา 36 ให้กักไว้มีกำหนดเวลาต่อไปอีก หรือให้จัดสถานใดแล้วแต่จะได้วางไว้ในข้อบังคับแต่ถ้า
1. เป็นจดหมายและไปรษณียบัตรให้ทำลายเสีย
2. เป็นทรัพย์สินที่ซึ่งไม่อาจเสื่อมศูนย์โดยสภาพซึ่งพบในไปรษณียภัณฑ์ส่งไม่ได้ให้กักไว้มีกำหนด 1 ปี เมื่อพ้นกำหนดเวลานั้นแล้วมีผู้ใดมาอ้างว่ามีสิทธิในทรัพย์สินนั้นให้ตกเป็นสิทธิของรัฐบาล
16. กรณีที่ไปรษณีย์ไม่สามารถจ่ายเงินตามธนาณัติให้แก่ผู้รับได้ เพราะเหตุผู้รับตายหรือล้มละลายจึงจะต้องจ่ายให้แก่ใคร
ก. ทายาท ข. ผู้จัดการมรดกของผู้รับ
ค. เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์สิน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. เมื่อไม่สามารถจ่ายเงินตามธนาณัติได้แก่ผู้รับเพราะเหตุผู้รับตายหรือล้มละลายกรมมีอำนาจที่จะจ่ายเงินจำนวนนั้นให้แก่ทายาท หรือผู้จัดการมรดกของผู้รับ หรือ เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์สิน ฯลฯ แล้วแต่กรณี แต่เมื่อบุคคลนั้นๆ แสดงหลักฐานแห่งฐานะของตนดังกล่าวข้างต้นได้จนเป็นที่พอใจ
17. กรณีที่หาตัวผู้รับธนาณัติไม่ได้และพ้นกำหนดเวลาเท่าใด ที่ผู้รับและผู้ฝากธนาณัติจะเรียกเงินคืนมิได้
ก. 3 เดือน ข. 6 เดือน
ค. 1 ปี ง. 2 ปี
ตอบข้อ ค. ถ้าหาตัวผู้รับและผู้ฝากธนาณัติไม่ได้ให้กรมโฆษณาหาตัวผู้รับและผู้ฝาก เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันโฆษณา ผู้รับหรือผู้ฝากจะเรียกเงินจำนวนนั้นคืนหาได้ไม่
18. หลักฐานที่เจ้าพนักงานจะจ่ายเงินตามธนาณัติให้แก่ผู้รับคืออะไร
ก. ธนาณัติ ข. ใบเสร็จใบสำคัญ
ค. ใบแจ้งความสำหรับธนาณัติ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. เมื่อเจ้าพนักงานจะจ่ายเงินตามธนาณัติให้แก่บุคคลหนึ่ง บุคคลใดที่นำธนาณัติหรือใบเสร็จสำคัญ หรือใบแจ้งความสำหรับธนาณัติมาแสดงว่าเป็นผู้รับเงินหรือตัวแทนไปแล้วกรมเป็นเหตุอันหลุดพ้นจากความรับผิดชอบในเงินจำนวนนั้น
19. เจ้าพนักงานไปรษณีย์กระทำการให้เกิดความเสียหายแก่ไปรษณียภัณฑ์โดยเจตนาต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 15 วัน ข. ปรับไม่เกิน 200 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 500 บาท ง. ข้อ ก และ ข ถูก
ตอบข้อ ง. ผู้เป็นเจ้าพนักงานไปรษณีย์หรือเป็นผู้มีหน้าที่ราชการติดต่อกับที่ทำการไปรษณีย์หรือตู้ไปรษณีย์ เชือนแชหรือทำให้เนิ่นช้าในการนำส่ง หรือส่งมอบถุงไปรษณีย์หรือไปรษณียภัณฑ์หรือธนาณัติ หรือกระทำการให้เกิดเสียหายแก่สิ่งเหล่านั้นโดยเจตนา ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 15 วัน หรือ ปรับไม่เกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
ผลงานการสอบได้ของลูกค้า
ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com