เเนวข้อสอบการเงินเเละบัญชีปฏิบัติการ
คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ดีที่สุดในตัวเลือก ก, ข, ค และ ง ที่ถูกต้องที่สุดเพียงตัวเลือกเดียวสำหรับคำถามในแต่ละข้อ
1. สำหรับการตรวจสอบในสภาพแวดล้อมของระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ ผู้สอบบัญชีควรมีความเข้าใจในหลายเรื่องที่แตกต่างไปจากระบบที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ ยกเว้น ข้อใด
ก. ความพร้อมของแฟ้มข้อมูล เอกสารปรกอบรายการที่ให้ตรวจสอบ
ข. ความน่าจะเป็นหรือโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดและรายการผิดปกติ
ค. ความสำคัญและความซับซ้อนของการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์
ง. โครงสร้างการจัดองค์การของกิจกรรมด้านระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์
2. ลักษณะการประมวลผลข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างไปอย่างชัดเจนจากระบบประมวลผลข้อมูลด้วยมือ คือข้อใด
ก. การไม่มีเอกสารที่ใช้ในการนำข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์
ข. การไม่มีหลักฐานที่ใช้ติดตามการบันทึกรายการที่มองเห็นด้วยสายตา
ค. การไม่สามารถมองเห็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ด้วยสายตา
ง. การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ยาก
3. ข้อใดไม่ใช่การควบคุมทั่วไปของระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์
ก. การควบคุมการประมวลผลและแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์
ข. การควบคุมการบำรุงรักษาและการพัฒนาระบบงาน
ค. การควบคุมการจัดองค์การและการบริหารงาน
ง. การควบคุมการปฏิบัติงานคอมพิวเตอร์
4. การใช้รหัสผ่าน (Password) ในระบบงานคอมพิวเตอร์เป็นวิธีการควบคุมประเภทใด
ก. การควบคุมการบำรุงรักษาและการพัฒนาระบบงาน
ข. การควบคุมการจัดองค์การและการบริหารงาน
ค. การควบคุมระบบงาน
ง. การควบคุมการปฏิบัติงานคอมพิวเตอร์
5. วิธีการควบคุมใดที่จะทำให้การส่งข้อมูลที่ออกจากคอมพิวเตอร์ไปยังบุคคลที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น
ก. การกระทบยอดรวม
ข. ทะเบียนคุมรับ ส่งข้อมูล
ค. การสอบทานด้วยสายตา
ง. ตารางแจกจ่ายข้อมูล
6. ผู้สอบบัญชีสามารถทดสอบการควบคุมโดยโปรแกรมในระบบงานได้โดยวิธีใดจึงจะดีที่สุด
ก. เทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการสอบบัญชี
ข. การใช้การสุ่มตัวอย่างทดสอบผลลัพธ์ที่ได้
ค. การสังเกตการณ์ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ง. การใช้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์
7. การควบคุมที่ช่วยป้องกันการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่หยุดชะงัก มีหลายวิธียกเว้นข้อใด
ก. การจัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมสำรองไว้ภายนอกกิจการ
ข. การกำหนดขั้นตอนและวิธีการฉัน้ระบบกลับคืน
ค. การจัดทำระบบคอมพิวเตอร์ที่สำรองไว้ภายนอกกิจการ
ง. การจำกัดการเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์
8. เทคนิคการตรวจสอบระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ใดที่ผู้สอบบัญชีสอบทานข้อมูลป้อนเข้าและข้อมูลป้อนออกโดยไม่สนใจการประมวลผล
ก. การตรวจสอบโดยผ่านคอมพิวเตอร์
ข. การตรวจสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์
ค. การตรวจสอบโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์
ง. การตรวจสอบโดยใช้ข้อมูลจำลอง
9. วิธีการใช้ข้อมูลจำลอง (Test Data Method) เป็นเทคนิคการตรวจสอบระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ประเภทใด
ก. การตรวจสอบโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์
ข. การตรวจสอบโดยผ่านคอมพิวเตอร์
ค. การตรวจสอบการประมวลผลคอมพิวเตอร์
ง. การตรวจสอบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
10. ผู้สอบบัญชีควรใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจสอบระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยเหตุผลหลายประการ ยกเว้น ข้อใด
ก ลดความเสี่ยงจากการตรวจสอบให้ต่ำลงในระดับที่ยอมรับได้
ข สามารถเข้าถึงข้อมูลที่บันทึกไว้ในสื่อคอมพิวเตอร์ได้ง่ายและรวดเร็ว
ค เพิ่มประสิทธิผลของการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว
ง เพิ่มปริมาณหรือขอบเขตตัวอย่างที่ใช้ทดสอบได้มากขึ้น
11. ถ้าความเสี่ยงสืบเนื่อง ความเสี่ยงจากการควบคุมและความเสี่ยงจากการตรวจสอบมีค่าเท่ากับ 0.75,0.5 และ 0.25 ตามลำดับ ความเสี่ยงในการสอบบัญชีจะมีค่าเท่าใด
ก. 16.16% ข. 37.5% ค. 15% ง. 9.375%
12. ผู้สอบบัญชีจะกำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้เท่ากับ 3%จากธุรกิจที่ตรวจสอบซึ่งมีความเสี่ยงสืบเนื่อง 100% และความเสี่ยงจากการควบคุม 30% ถ้าความเสี่ยงจากการควบคุมเปลี่ยนไป 80% ความเสี่ยงจากการตรวจสอบควรเป็นเท่าไร
ก. 3.75% ข. 7% ค. 10% ง. 15%
13. บริษัท ก บริษัท ข
ความเสี่ยงในการสอบบัญชีที่ยอมรับได้ ต่ำ สูง
ความเสี่ยงสืบเนื่อง สูง ต่ำ
ความเสี่ยงจากการควบคุม สูง ต่ำ
จากข้อมูลข้างต้น ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก. ความเสี่ยงจากการตรวจสอบที่วางแผนไว้ของบริษัท ก จะเท่ากับบริษัท ข
ข. ความเสี่ยงจากการตรวจสอบที่วางแผนของบริษัท ก จะสูงกว่าบริษัท ข
ค. ปริมาณหลักฐานการสอบบัญชีที่ต้องการสำหรับบริษัท ก จะต่ำกว่าบริษัท ข
ง. ปริมาณหลักฐานการสอบบัญชีที่ต้องการสำหรับบริษัท ก จะมากกว่าบริษัท ข
14. ผู้สอบบัญชีควรพิจารณาความเสี่ยงในการสอบบัญชีเมื่อใดเป็นลำดับแรก
ก. เมื่อวางแผนการสอบบัญชีโดยการประเมินความเสี่ยงโดยรวม เพื่อกำหนดขอบเขตงาน
ข. เมื่อตรวจพบว่าระบบการควบคุมภายในมีข้อจำกัดบางประการ
ค. เมื่อตรวจพบจุดอ่อนของบัญชีที่อาจก่อให้เกิดการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
ง. เมื่อเริ่มปฏิบัติงานตรวจสอบระหว่างปี
15. ข้อใดเป็นการทดสอบการควบคุม
ก. ตรวจนัยยอดเงินสดในมือ ข. ตรวจสอบลายเซ็นบนเช็ค
ค. สอบทานงบระบบยอดเงินฝากธนาคาร ง. ส่งหนังสือยืนยันยอดเงินฝากธนาคาร
16.การแบ่งแยกหน้าที่และความรับผิดชอบตามหลักการควบคุมภายในที่ดี จะต้องจัดให้มีการแบ่งแยกหน้าที่งานใดออกจากกัน
ก. การตรวจรับสินค้าและการดูแลรักษาสินค้า
ข. การอนุมัติ การจ่ายเงินและการสอบทานการจ่ายเงิน
ค. การอนุมัติ การบันทึกรายการและการเก็บรักษาทรัพย์สิน
ง. การบันทึกรายการและการเก็บรักษาทรัพย์สิน
17. ผังทางเดินเอกสาร แบบสอบถามการควบคุมภายใน และการบันทึกคำอธิบาย จัดเป็นอะไร
ก. การทดสอบการควบคุม
ข. การออกแบบคู่มือการบัญชีและระบบบัญชี
ค. การบันทึกระบบการควบคุมภายใน
ง. วิธีทดสอบโครงสร้างการควบคุมภายใน
18. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ข้อดีของแบบสอบถามในการทำความเข้าใจเกี่ยวการควบคุมภายใน คือความครอบคลุมถึงการควบคุมภายในที่สำคัญของรายการบัญชีนั้นๆ
ข. การใช้ทั้งแบบสอบถามและผังทางเดินเอกสารในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการควบคุมภายในจะทำให้ผู้สอบบัญชีสามารถเข้าใจระบบการควบคุมภายในของลูกค้าเป็นอย่างดี
ค. ผู้สอบบัญชีไม่ควรใช้ผังทางเดินเอกสารที่ลูกค้าจัดทำได้ เนื่องจากขาดความเป็นอิสระ แต่ควรจัดทำขึ้นมาเอง เพื่อให้มั่นใจว่าตนเข้าใจระบบการควบคุมภายในอย่างถูกต้อง
ง. การจัดทำแบบสอบถาม สามารถจัดทำหรือเตรียมไว้ตั้งแต่ช่วงแรกของการตรวจสอบ
19. กรณีใดที่ผู้ตรวจสอบเลือกที่จะใช้วิธีการทดสอบการควบคุม
(1) ผู้สอบบัญชีเชื่อว่าระบบการควบคุมภายในไม่มีประสิทธิภาพ
(2) ผู้สอบบัญชีเชื่อว่าค่าใช้จ่ายจากการใช้วิธีการทดสอบการควบคุมจะต่ำกว่าค่าใช้จ่ายจากการ ใช้วิธีการตรวจสอบเนื้อหาสาระ
(3) ผู้สอบบัญชีต้องการที่จะกำหนดให้ความเสี่ยงจากการควบคุมเท่ากับ 3%
ก. (1) และ (2) ค. (2) และ (3)
ข. (1) และ (3) ง.(1) และ (2) และ (3)
20. การเลือกใช้นโยบายการบัญชีที่สมเหตุสมผล การจัดให้มีระบบการควบคุมภายในอย่างเพียงพอและการจัดทำงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป เป็นความรับผิดชอบของใคร
ก. ผู้บริหารแต่ผู้เดียวเป็นผู้รับผิดชอบ
ข. ผู้บริหารรับผิดชอบบัญชีรับชอบร่วมกัน
ค. ผู้บริหารรับผิดชอบในเรื่องการจัดให้มีระบบการควบคุมภายในที่เพียงพอและการจัดทำงบการเงินส่วนการเลือกใช้นโยบายการบัญชีที่สมเหตุสมผลและการเปิดเผยข้อมูลใน หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นความรับผิดชอบชองผู้สอบบัญชี
ง. การเลือกใช้นโยบายการบัญชีที่สมเหตุสมผล และการจัดทำหมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหาร ส่วนการจัดให้มีระบบการควบคุมภายในอย่างเพียงพอเป้นความรับผิดชอบของผู้ตรวจสอบภายใน
21 รายการบัญชีใดต่อไปนี้ไม่อยู่ในวงจรการผลิต
ก. เบิกใช้วัตถุดิบ ข. โอนสินค้าที่ผลิตเสร็จออก
ค. คิดค่าแรงงานเข้างาน ง. เกิดค่าใช้จ่ายการผลิต
22. บัญชีใดต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับวงจรการผลิตมากที่สุด
ก. ต้นทุนขาย ข. วัตถุดิบ
ค. งานระหว่างทำ ง. สินทรัพย์ถาวร
23. โดยทั่วไปผลการประเมินความเสี่ยงสืบเนื่องและความเสี่ยงจาการควบคุมสำหรับสินค้าคงเหลือจะสูงสุด สำหรับสิ่งที่ผู้บริหารให้การรับรองไว้เกี่ยวกับงบการเงินในเรื่องใด
ก. สิทธิและภาระผูกพัน ข. ความมีอยู่จริงหรือเกิดขึ้นจริง
ค. การแสดงรายการ ง. ความครบถ้วน
24. วิธีการสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือจัดเป็นการตรวจสอบเนื้อหาสาระประเภทใด
ก. การทดสอบรายละเอียดของยอดคงเหลือ ข. การทดสอบรายละเอียดของรายการ
ค. วิธีเคราะห์เปรียบเทียบ ง. การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูล
25. ผลกระทบที่กิจการจะได้รับอันเนื่องจากข้อผิดพลาดหรือรายการทุจริตเกี่ยวกับค่าจ้าแรงงานมีหลายเรื่องยกเว้นเรื่องใด
ก. การจ่ายค่าเบี้ยปรับเนื่องจากการเสียภาษีเงินได้ของกิจการต่ำเกิน
ข. การจ่ายเงินค่าแรงมากเกินไป
ค. การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัด ณ ที่จ่ายไม่ถูกต้อง
ง. การกระจ่ายต้นทุนค่าแรงงานการผลิตไม่เหมาะสม
26. การตรวจสอบบัตรลงเวลาและใบจดเวลาว่ามีลายมือชื่อของหัวหน้าคนงานที่มีอำนาจอนุมัติรายการช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบในเรื่องใด
ก. การวัดมูลค่า ข. สิทธิและภาระผูกพัน
ค. ค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างจังหวัด ง. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
27. รายการค่าจ้างแรงงานจะกระทบบัญชีต่าง ๆ หลายบัญชี ยกเว้นข้อใด
ก. เงินเดือนและค่าแรง ข. ค่าใช้จ่ายการผลิต
ค. ค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างจังหวัด ง. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
28. ความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตในค่าจ้างแรงคือข้อใด
ก. พนักงานลาออกจากงานไปแล้ว แต่แผนกบุคคลไม่ทราบถึงการลาออกดังกล่าว
ข. การคำนวณจำนวนเงินค่าจ้างแรงงานสูงกว่าความเป็นจริง
ค. อัตราการเข้าออกของพนักงานสูงทำให้ไม่ทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
ง. การแจ้งชื่อพนักงานปลอมขึ้นมาและจ่ายเช็คสั่งจ่ายให้แก่ตนเอง
29. ข้อใดไม่ใช่วิธีการทดสอบการตีราคาสินค้าคงเหลือ
ก. ขอยืนยันยอดสินค้าคงเหลือที่ส่งไปฝากขายกับบุคคลภายนอก
ข. สอบถามสินค้าเสื่อมสภาพล้าสมัยว่ามีหรือไม่ มีมากน้อยเพียงใด
ค. ตรวจสอบใบกำกับสินค้าจากผู้ขายหรือใบต้นทุนการผลิต
ง. เปรียบเทียบราคาทุนหรือราคาตลาดของสินค่าคงเหลือ
30. วิธีการตรวจสอบหนี้สินค่าจ้างแรงงานค้างจ่าย เพื่อวัตถุประสงค์ของการมีอยู่จริง คือข้อใด
ก. การตรวจสอบเอกสารหลักฐานแสดงการเป็นหนี้สิน
ข. การส่งหนังสือขอยืนยันยอดจากพนักงานและลูกจ้าง
ค. การสอบถามผู้บริหารและขอหนังสือรับรองจากลูกค้า
ง. การจ่ายชำระหนี้สินภายหลังวันที่ในงบดุล
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบการเคหะแห่งชาติ ทุกตำแหน่ง
สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
ผลงานการสอบได้ของลูกค้า
ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com