กฎก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพ.ศ. ๒๕๕๐
31.การแต่งตั้งคณะกรรมการ การเลื่อนขั้นขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนดให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการไม่น้อยกว่ากี่คน ขึ้นพิจารณาและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของผู้อำนาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน
ก. 2 คน
ข. 3 คน
ค. 4 คน
ง. 5 คน
32. การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้พิจารณาจากสิ่งใด
ก. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารเป็นหลัก
ข. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอนเป็นหลัก
ค. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนเป็นหลัก
ง. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาเป็นหลัก
33. การเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เลื่อนปีละ
สองครั้งเมื่อใดบ้าง
ก. ครั้งที่หนึ่งครึ่งปีแรกเลื่อนวันที่๑เมษายนของปีที่ได้เลื่อน
ครั้งที่สองครึ่งปีหลังเลื่อนวันที่๑ตุลาคมของปีถัดไป
ข. ครั้งที่หนึ่งครึ่งปีแรกเลื่อนวันที่๑พฤษภาคมของปีที่ได้เลื่อน
ครั้งที่สองครึ่งปีหลังเลื่อนวันที่๑พฤศจิกายนของปีถัดไป
ค. ครั้งที่หนึ่งครึ่งปีแรกเลื่อนวันที่๑มกราคมของปีที่ได้เลื่อน
ครั้งที่สองครึ่งปีหลังเลื่อนวันที่๑กรกฎาคมของปีถัดไป
ง. ครั้งที่หนึ่งครึ่งปีแรกเลื่อนวันที่๑ตุลาคมของปีที่ได้เลื่อน
ครั้งที่สองครึ่งปีหลังเลื่อนวันที่๑เมษายนของปีถัดไป
34. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งผู้บังคับบัญชาส่งหรืออนุญาตให้ลาไปศึกษา
ฝึกอบรมหรือวิจัยตามความจำเป็นหรือความต้องการของหน่วยงานเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาในระดับปริญญาเอก ต้องมีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่าข้อใด
ก. ระดับปริญญาเอกมีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่า๓.๐
ข. ระดับปริญญาเอกมีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่า๒.๕
ค. ระดับปริญญาเอกมีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่า๓.๕
ง. ระดับปริญญาเอกมีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตรไม่ต่ำกว่า๓.๒
35.กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา กำหนดใช้เมื่อใด
ก. พ.ศ.๒๕๕๐
ข. พ.ศ.๒๕๔๙
ค. พ.ศ.๒๕๔๘
ง. พ.ศ.๒๕๔๗
36. เกณฑ์การประเมินความประพฤติในการรักษาวินัยแบบประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาคิดเป็นคะแนนร้อยละเท่าใด
ก. คิดเป็นคะแนนร้อยละ 60
ข. คิดเป็นคะแนนร้อยละ 10
ค. คิดเป็นคะแนนร้อยละ 20
ง. คิดเป็นคะแนนร้อยละ 40
37. แบบประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีทั้งหมดกี่แบบ
ก. 2 แบบ
ข. 3 แบบ
ค. 4 แบบ
ง. 5 แบบ
8. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. แบบประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้สอน
ข. แบบประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งศึกษานิเทศก์
ค. แบบประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา
ง. แบบประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
39. ข้อใดสอดคล้องตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๐
ก. เลื่อนได้สองในสามของอันดับเงินเดือนที่ได้รับแต่งตั้ง
ข. เลื่อนได้ไม่เกินขั้นสูงของอันดับเงินเดือนที่ได้รับแต่งตั้ง
ค. เลื่อนได้ครึ่งหนึ่งของอันดับเงินเดือนที่ได้รับแต่งตั้ง
ง. เลื่อนได้สามในสี่ของอันดับเงินเดือนที่ได้รับแต่งตั้ง
40. ตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๐กรณีศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกหรือโทษหนักกว่าจำคุกควรพิจารณาตามข้อใดต่อไปนี้
ก. งดเลื่อนขั้นเงินเดือนที่รอการเลื่อนไว้ถ้าได้รอการเลื่อนขั้นเงินเดือนไว้เกินหนึ่งครั้ง
ข. งดเลื่อนขั้นเงินเดือนที่รอการเลื่อนไว้ในครั้งที่ศาลพิพากษาให้ลงโทษ
ค. งดเลื่อนขั้นเงินเดือนในครั้งที่จะได้เลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งสุดท้าย
ง. งดเลื่อนขั้นเงินเดือนทุกครั้งที่ได้รอการเลื่อนขั้นเงินเดือนไว้
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2550
41. บุคคลใดมีอำนาจสั่งให้ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักเขตพื้นที่การศึกษามากที่สุด
ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ข. เลขาธิการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. อธิบดีกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา
42. กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2550 โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ตามมาตราใด
ก. 17 และ 50
ข.18 และ 60
ค.19 และ 70
ง.20 และ 80
43. คำสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักเขตพื้นที่การศึกษาเป็นการชั่วคราวเป็นเวลากี่เดือนนับตั้งแต่วันที่สั่งให้ประจำการ
ก. 3 เดือน
ข. 6 เดือน
ค. 9 เดือน
ง. 12 เดือน
44. กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2550 ได้รับอนุมัติจากใคร
ก. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ข. ปลัดกระทรวง
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. คณะรัฐมนตรี
45. การขอขยายเวลาให้ขออนุมัติขยายเวลาต่อ ก.ค.ศ. ก่อนวันครบกำหนดระยะเวลาเดิมไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 30 วัน
ข.60 วัน
ค.90 วัน
ง.120 วัน
46. ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือมีการใช้สำนวนการสอบสวน พิจารณาดำเนินการตามมาตราใด
ก. มาตรา 110
ข. มาตรา 111
ค. มาตรา 112
ง. มาตรา 113
47. ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน พิจารณาดำเนินการตามมาตราใด
ก. มาตรา 110 (4)
ข. มาตรา 111 (4)
ค. มาตรา 112 (4)
ง. มาตรา 113 (4)
48. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ประกาศใช้ กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2550 ณ วันที่เท่าใด
ก. 14 กันยายน2550
ข. 14 ตุลาคม2550
ค. 14 พฤศจิกายน2550
ง. 14 ธันวาคม2550
49. ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาที่มีตำแหน่งวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และตำแหน่งซึ่งได้รับเงินเดือนในระดับใดลงมาในเขตพื้นที่การศึกษา
ก. ระดับ 6
ข. ระดับ 7
ค. ระดับ 8
ง. ระดับ 9
50. บุคคลใดที่เป็นประธาน ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ. 2550
ก. พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
ข. นายวิจิตร ศรีสอ้าน
ค. นายชวน หลีกภัย
ง. นายกษิต ภิรมย์
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาร้องทุกข์ พ.ศ. ๒๕๕๑
51. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ตรงกับความหมายของคำว่า “ปลัดกระทรวง” ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
ก. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ข. ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
ค. ปลัดกระทรวงที่มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
52. การร้องทุกข์คำสั่งให้ออกจากราชการ ให้ร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ.ภายในกี่วัน
ก. 30 วัน
ข. 45 วัน
ค. 15 วัน
ง. 50 วัน
53. ถ้าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาไม่ประสงค์จะปรึกษาหารือหรือปรึกษาหารือแล้วไม่ได้รับคำชี้แจงหรือผู้บังคับบัญชามิได้ดำเนินการใดๆ ในกรณีที่เห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากการกระทำของผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการใด
ก. แจ้งความประสงค์ที่จะปรึกษาหารือ รับฟังหรือสอบถามกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้งภายใน 30 วัน
ข. ให้ผู้บังคับบัญชานั้นให้โอกาสและรับฟังหรือสอบถามเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นต้น
ค. ทำเป็นหนังสือยื่นหรือส่งต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณีภายในสามสิบวันและให้ร้องทุกข์ได้สำหรับตนเองเท่านั้น
ง. การร้องทุกข์ให้ทำเป็นหนังสือยื่นหรือส่งต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา โดยมอบมอบหมายให้ผู้อื่นร้องทุกข์แทนอีกครั้ง
54. หนังสือร้องทุกข์ในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือมีความคับข้องใจเนื่องจากการกระทำของผู้บังคับบัญชา จำเป็นต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
ก. ลายมือชื่อที่อยู่ ตำแหน่งผู้ร้องทุกข์คำร้องทุกข์
ข. ลายมือชื่อที่อยู่ คำร้องทุกข์ข้อเท็จจริงและเหตุผล
ค. ลายมือชื่อที่อยู่ ตำแหน่งผู้ร้องทุกข์ข้อเท็จจริงและเหตุผล
ง. ลายมือชื่อที่อยู่ตำแหน่งผู้ร้องทุกข์ผู้รับรอง
55. การร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ.ให้ทำหนังสือร้องทุกข์ถึงใคร
ก. ประธาน ก.ค.ศ. หรือเลขาธิการก.ค.ศ.
ข. เลขานุการของ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง
ค. ประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
56. ในกรณีที่มีผู้นำหนังสือร้องทุกข์มายื่นเอง จะได้รับอะไรไว้เป็นหลักฐานในวันที่รับตามระเบียบว่าด้วยงานสารบรรณและให้ถือวันที่รับหนังสือตามหลักฐานดังกล่าวเป็นวันยื่นหนังสือร้องทุกข์
ก. ใบรับฝากเป็นหลักฐานฝากส่ง
ข. ใบรับพร้อมประทับตรารับและลงทะเบียน
ค. ใบลงทะเบียนและตาประทับ
ง. ใบแสดงการร้องทุกข์และใบรับ
57. ผู้ร้องทุกข์มีสิทธิคัดค้านอนุกรรมการหรือกรรมการผู้พิจารณาเรื่องร้องทุกข์ถ้าผู้นั้นมีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ยกเว้นข้อใด
ก. เป็นผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์
ข. มีส่วนได้เสียในเรื่องที่ร้องทุกข์
ค. มีสาเหตุโกรธเคืองผู้ร้องทุกข์
ง. ไม่คุ้นเคยกรรมการผู้พิจารณา
58. ในกรณีที่ผู้ร้องทุกข์ไม่ประสงค์จะให้มีการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ต่อไปจะขอถอนเรื่องร้องทุกข์ก่อนที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ.พิจารณาเรื่องร้องทุกข์เสร็จสิ้นจะต้องกระทำการโดยวิธีใด
ก. ทำเป็นหนังสือยื่นหรือส่งตรงต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ.
ข. ส่งเอกสารหรือหลักฐานโดยมีคำชี้แจงประกอบ
ค. ส่งสำเนาหนังสือร้องทุกข์ให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์ทราบโดยเร็ว
ง. ให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์นั้นจัดส่งหนังสือร้องทุกข์พร้อมทั้งสำเนาและเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
59. ถ้ามีความจำเป็นอ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ. ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับหนังสือร้องทุกข์ ให้ขยายเวลาพิจารณาได้อีกกี่วัน
ก. ไม่เกิน 15 วัน
ข. ไม่เกิน 30 วัน
ค. ภายใน 1 สัปดาห์
ง. แล้วแต่จะกำหนดเวลา
60. เมื่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ.ได้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์จะแล้วเสร็จในกรณีใด
ก. ผู้บังคับบัญชาได้ใช้อำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วให้มีมติยกคำร้องทุกข์
ข. ผู้บังคับบัญชาได้ใช้อำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้มีมติเพิกถอนหรือยกเลิกการปฏิบัติ
ค. เห็นว่าการร้องทุกข์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ให้มีมติไม่รับคำร้องทุกข์
ง. ถูกทุกข้อ
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. 2548และ
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน และนักศึกษา พ.ศ. 2548
61. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา
พ.ศ. 2548อาศัยอำนาจในมาตราใดในการวางระเบียบ
ก. มาตรา 10
ข. มาตรา 11
ค. มาตรา 12
ง. มาตรา 13
62. การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาหมายความว่าอย่างไร
ก. ครู อาจารย์หรือหัวหน้าสถานศึกษาพานักเรียนและนักศึกษาไปทำกิจกรรมการเรียนการสอนนอกสถานศึกษาตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นเวลาเปิดทำการสอนหรือไม่ก็ได้
ข. ครู อาจารย์ พานักเรียนไปเข้าค่ายพักแรมของลูกเสือ ยุวกาชาด และเนตรนารี
นอกสถานศึกษา
ค. ครู อาจารย์พานักเรียนนักศึกษาไปเดินทางไกลนอกสถานศึกษา
ง. ครู อาจารย์พานักเรียนนักศึกษาไปแข่งทักษะนอกสถานที่
63. การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา จำแนกออกเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท
ข. 3 ประเภท
ค. 4 ประเภท
ง. 5 ประเภท
64. หัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ควบคุม จะต้องมีครูเป็นผู้ช่วยผู้ควบคุมดูแลในการเดินทาง ซึ่งโดยครู 1 คน ต่อจำนวนนักเรียนหรือนักศึกษาไม่เกินกี่คน
ก. 20 คน
ข. 25 คน
ค. 30 คน
ง. 35 คน
65. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา
พ.ศ. 2548ประกาศใช้ ณ วันที่เท่าใด
ก. 30 สิงหาคม 2548
ข. 30 กันยายน 2548
ค. 30 ตุลาคม 2548
ง. 30 พฤศจิกายน 2548
66. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา อาศัยอำนาจตามความในมาตราใดแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
ก. มาตรา 6 และมาตรา 62
ข. มาตรา 6 และมาตรา 63
ค. มาตรา 6 และมาตรา 64
ง. มาตรา 6 และมาตรา 65
67. โทษที่จะลงโทษแก่เด็กนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มีกี่สถาน
ก. 4 สถาน
ข. 5 สถาน
ค. 6 สถาน
ง. 7 สถาน
68. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ โทษที่จะลงโทษแก่เด็กนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด
ก. ว่ากล่าวตักเตือน
ข. ทำทัณฑ์บน
ค. บำเพ็ญประโยชน์
ง. ตัดคะแนนความประพฤติ
69. การรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบ และมีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบ ให้บุคคลใดเป็นผู้รักษาการ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ผู้อำนวยการกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกลาโหม
70. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการท่านใด ที่ประกาศให้ใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน และนักศึกษา พ.ศ. 2548
ก. จาตุรนต์ฉายแสง
ข. ปองพลอดิเรกสาร
ค. สุวิทย์คุณกิตติ
ง. อดิศัยโพธารามิก
สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
[font=arial ]ผลงานการสอบได้ของลูกค้า
ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com