ข้อ 1. การโฆษณายาแบบใดที่ผู้อนุญาติมีอำนาจอนุมัติข้อความที่โฆษณาได้
1. การโฆษณายาโดยการร้องเพลง
2. การโฆษณาสรรพคุณยาอันตราย
3. การโฆษณายาแก้เบาหวานโดยตรงต่อผู้ประกอบโรคศิลปะ
4. การโฆษณายาโดยให้ผู้ประกอบโรคศิลปะเป็นผู้รับรองสรรพคุณ
ข้อ 2. นายโชคขายสมุนไพรที่เข้าเมล็ดสลอดทั้งๆที่ยังอยู่ในลักษณะที่ยังไม่แปรสภาพ แต่อาจถูกจับข้อหาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ เพราะ
1. ขายยาโบราณที่เป็นอันตราย
2. นายโชคไม่เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ
3. ขายยาตำรับอันตราย
4. ขายยาสมุนไพรที่เป็นอันตราย
ข้อ 3. ในกรณีผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ของผู้อนุญาตแจ้งการไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต
1. 15 วัน
2. 20 วัน
3. 25 วัน
4. 30 วัน
ข้อ 4. ผู้ใดผลิตยาปลอมต้องระวางโทษสถานใด
1. จำคุกหนึ่งปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
2. จำคุกตลอดชีวิต
3. จำคุกห้าปีและปรับห้าหมื่นบาท
4. จำคุกตั้งแต่สามปีถึงตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท
ข้อ 5. ผู้รับอนุญาตผลิตยาหรือขายยาแผนโบราณนอกสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ในใบอนุญาตเว้นแต่เป็นการขายส่งจะมีโทษสถานใด
1. ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสามพันบาท
2. ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสามพันบาท
3. ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
4. ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
ข้อ 6. การกระทำในข้อใดที่ผู้รับอนุญาตจะต้องดำเนินการเสมือนการขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลใหม่
1. เปลี่ยนตัวผุ้ดำเนินการสถานพยาบาล
2. เปลี่ยนตัวผู้รับอนุญาต
3. เปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลใหม่
4. ย้ายสถานพยาบาลไปประกอบกิจการที่อื่น
ข้อ 7. ผู้ใดดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 24 วรรคหนึ่งมีโทษประการใด
1. จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ปรับไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาท
ข้อ 8. เมื่อท่านเป็นผู้ป่วย และเข้าไปรักษาในคลินิคแพทย์ สิ่งสำคัญที่ท่านควรจะต้องตรวจสอบในคลินิคนั้นคืออะไร
1. ป้ายชื่อคลินิคตรงกับชื่อแพทย์หรือไม่
2. ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
3. วุฒิบัตรแสดงความรู้หรือคุณวุฒิของแพทย์
4. อุปกรณ์การแพทย์รวมทั้งเวชภัณฑ์
ข้อ 9. สมศรีมีความประสงค์จะขออนุญาตเป็นผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาล แต่ผุ้อนุญาตไม่ยอมออกใบอนุญาตให้ สมศรีควรทำอย่างไร
1. อุทธรณ์ต่อปลัดกระทรววสาธารณสุข
2. อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
3. อุทธรณ์ต่อนายกรัฐมนตรี
4. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการสถานพยาบาล
ข้อ10. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนตรงตามข้อใด
1. ฉบับละ 2,000 บาท
2. ฉบับละ 1,000 บาท
3. ฉบับละ 500 บาท
4. ฉบับละ 200 บาท
ข้อ 11. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามมาตรา 8(2) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 นั้น นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระแล้ว พ้นจากตำแหน่งเมื่อใด
1. ขาดคุณสมบัติ
2. ลาออก
3. รัฐมนตรีให้ออก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
4. ถูกทุกข้อ
ข้อ 12. กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง และกรรมการวิชาชีพที่ได้รับเลือกตั้ง อยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้ง หรือเลือกตั้งอีกได้
1. สองปี
2. สามปี
3. สี่ปี
4. ห้าปี
ข้อ 13. การกล่าวหาผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ทำคำชี้แจง หรือนำพยานหลักฐานมาแสดงต่อ คณะอนุกรรมการวิชาชีพ ผุ้สอบสวนความผิดของตนได้ ภายในกำหนดระยะเวลากี่วัน
1. 10 วันนับแต่วันได้รับแจ้ง
2. 15 วันนับแต่วันได้รับแจ้ง
3. 20 วันนับแต่วันได้รับแจ้ง
4. 30 วันนับแต่วันได้รับแจ้ง
ข้อ 14. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ
1. เสนอความเห็นต่อคณะรัรฐมนตรีในการกำหนดนโยบาย
2. ให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการวิชาชีพ
3. พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นที่ตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
4. รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ
ข้อ 15. คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 มีจำนวน
1. ไม่น้อยกว่า 12 คน แต่ไม่เกิน 17 คน
2. ไม่น้อยกว่า 13 คน แต่ไม่เกิน 17 คน
3. ไม่น้อยกว่า 14 คน แต่ไม่เกิน 17 คน
4. ผิดทุกข้อ
ข้อ 16. นาย ก. มีความรู้เรื่องรักษาโรค โดยการเรียนรู้สืบทอดจากบรรพบุรุษ โดยอาศัยกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทย นาย ก. ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ถ้านาย ก. ไปตรวจรักษาผู้ป่วยแล้วเรียกร้องค่าตอบแทน นาย ก. จะถูกลงโทษอย่างไร
1. อาจถูกจำคุกหรือปรับ
2. ถูกยึดทรัพย์เรียกค่าตอบแทนที่เคยได้รับ
3. ถูกว่ากล่าวตักเตือน
4. ทุกข้อที่กล่าวมาแล้ว
ข้อ 17. ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือถูกกล่าวโทษไม่ยอมรับหนังสือแจ้งคำวินิจฉัยให้ทำอย่างไร
1. ให้ปิดคำวินิจฉัยไว้ในที่เปิดเผย ณ ภูมิลำเนาของผู้ถูกกล่าวหา
2. ให้ส่งทางจดหมายลงทะเบียนตอบรับ
3. ให้ลงประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวัน
4. ถูกทุกข้อ
ข้อ 18. ผู้ประกอบโรคศิลปะผุ้ใดฝ่าฝืน คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตและศาลพิพากษาลงโทษคดีประกอบโรคศิลปะผิดสาขา คดีได้ถึงที่สุดแล้ว ให้คณะกรรมการวิชาชีพ สั่งเพิกถอนใบอนุญาติตั้งแต่เมื่อไร
1. ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
2. ตั้งแต่วันที่ทราบว่ากระทำความผิด
3. ตั้งแต่วันที่สั่งพักใบอนุญาต
4. ตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารฟ้องศาล
ข้อ 19. พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ใช้บังคับเมื่อใด
1. ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2542 เป็นต้นไป
2. ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2542 เป็นต้นไป
3. ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2542 เป็นต้นไป
4. ผิดทุกข้อ
ข้อ 20. ภายในกี่วันนับจากวันเลือกตั้งคณะกรรมการวิชาชีพสาขาต่างๆ ให้คณะกรรมการวิชาชีพแต่ละสาขา เลือกกรรมการวิชาชีพเป็นประธานกรรมการและรองประธานกรรมการวิชาชีพ
1. ยี่สิบวัน
2. ยี่สิบห้าวัน
3. สามสิบวัน
4. ผิดทุกข้อ
ข้อ 21. ที่เกิดโลหิตระดูของสตรีเมื่อจะมีมาให้ดุจไข้จับร้อนๆหนาวๆ ปวดศีรษะมากข้อใดถูกต้อง
1. โลหิตระดูเกิดเมื่ออายุ 15 ปี
2. โลหิตระดูเกิดเมื่อร้อนตามผิวหน้า
3. โลหิตระดูบังเกิดแต่เส้นเอ็น
4. โลหิตระดูบังเกิดแต่การเจ็ฐบั้นเอวบ่อยๆ
ข้อ 22. พระคัมภีร์มหาโชตรัต ว่าด้วยสตรีภาพ ตั้งแต่คลอดจากครรภ์มารดา มีกายแตกต่างจากชายอย่างไร
1. มีระดู เป็นประจำทุกเดือน
2. มีประจำเดือนครั้งละ 3-5 วัน
3. มี ถัน จริต ที่ประเวณี และต่อมโลหิตระดู
4. มีกำลังกายอ่อนแอกว่าชาย มีความอ่อนหวาน
ข้อ 23. เมื่อจะมีระดูมาให้มีอาการ กระทำให้ท้องขึ้นท้องพองจุกเสียด ตัวร้อน คลื่นเหียนอาเจียนลมเปล่า เป็นลักษณะโลหิตอันบังเกิดจากกองธาตุใด
1. ปถวีธาตุ
2. อาโปธาตุ
3. วาโยธาตุ
4. เตโชธาตุ
ข้อ 24. อาการปรากฎ เมื่อจะใกล้มีระดูมา ให้เป็นไข้จับ ให้สบัดร้อนสบัดหนาว ปวดศีรษะเป็นกำลัง ครั้นมีระดูออกมาแล้ว อาการก็หายไปเป็นโลหิตระดูในข้อใด
1. เกิดแต่หัวใจ
2. เกิดแต่ขั้วดี
3. เกิดแต่เส้นเอ็น
4. เกิดแต่กระดูก
ข้อ 25. ข้อใดเป็นชื่อของหญิงที่มีน้ำนมเป็นโทษแก่ทารก โดยหญิงนั้นมีกลิ่นตัวคาวดังน้ำล้างเนื้อ
1. กาลกิณี
2. ยักขินี
3. หัสดี
4. หรดี
ข้อ 26. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะน้ำนมพิการในหญิง 3 จำพวก
1. สตรีแท้งบุตร
2. สตรีระดูขัด
3. สตรีอยู่ไฟไม่ได้
4. สตรีมีครรภ์อ่อน
ข้อ 27. ครรภ์วิปลาศ สาเหตุที่ทำให้สตรีทั้งครรภ์ตกไป (แท้งบุตร) เกิดจากสาเหตุใด
1. ทำงานหนักเกินกำลัง
2. พักผ่อนไม่เพียงพอ
3. กินของทีไม่ควรกินหรือกินยาขับโดยตั้งใจ
4. ไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักตัวเพิ่ม
ข้อ 28. คัมภีร์ปฐมจินดากำหนดโลหิตระดูสตรีที่เป็นปกติโทษ 5 ประการ คือ
1. โลหิตบังเกิดมาแต่หัวใจ ดี เนื้อ เอ็นและกระดูก
2. โลหิตบังเกิดมาแต่หทัย มังสัง ดี เส้นเอ็น และกระดูก
3. โลหิตบังเกิดมาแต่หทัย ดี เนื้อ เอ็น และนหารู
4. ไม่มีข้อใดถูก
ข้อ 29. ในคัมภีร์ปฐมจินดากล่าวไว้ว่า สัตว์ที่ปฎิสนธิในชมพูทวีปมีหลายสถาน อยากทราบว่า " สัตว์ที่เกิดเป็นฟองฟักไข่ " นั้นมีชื่อเรียกว่าอะไร ?
1. ชลามพุชะ
2. สังเสทชะ
3. อุปปาติกะ
4. อัณฑะชะ
ข้อ 30. เมื่อสัตว์ในครรภ์ปฎิสนธิครบ 1 สัปดาห์ จะพัฒนาเป็น
1. ดังไข่งู
2. น้ำล้างเนื้อ
3. ชิ้นเนื้อ
4. ปัญจสาขา
ข้อ 31. ลักษณะซาง ซางนิลเกิดในกระหม่อม แล้วลงมาเกิดขึ้นในเพดาน มีจำนวนยอดตามข้อใด ?
1. 1 ยอด
2. 3 ยอด
3. 4 ยอด
4. ถูกทุกข้อ
ข้อ 32. ลักษณะแห่งน้ำนมแม่ที่ดี สมควรเลี้ยงกุมาร กุมารี คือข้อใด ?
1. หญิงที่มีกลิ่นตัวคาวดังน้ำล้างมือ
2. หญิงที่มีกลิ่นตัวดังดอกอุบล
3. หญิงที่มีกลิ่นตัวดังบุรุษ
4. หญิงที่มีกลิ่นตัวเปรี้ยว
ข้อ 33. สตรีตั้งครรภ์ขึ้นได้ 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนก็ดี จะแสดงอะไรให้ปรากฎแก่คนทั้งหลาย
1. มีเส้นผ่านหน้าอกเขียว
2. เม็ดรอบหัวนมโตขึ้น
3. หัวนมดำคล้ำขึ้น
4. ถูกทุกข้อ
ข้อ 34. คัมภีร์มุขโรคได้กล่วถึงโรคอะไรบ้าง ?
1. โรคที่เกิดขึ้นในปากในคอ
2. โรคที่เกิดขึ้นในตา
3. โรคที่เกิดขึ้นในท้อง
4. โรคที่เกิดขึ้นในจมูก
ข้อ 35. ชื่อ กาละมุขะ ในคัมภีร์มุขโรค มีลักษณะอย่างไร
1. ลิ้นโตมันสีเขียว
2. ลิ้นโตดำ
3. บวมขึ้นในคอ
4. บวมทั้งคอ
ข้อ 36. ทำให้กายคนไข้แข้งกระด้าง ตึงชา เนื้อหนังเหี่ยว แข็งดังท่อนไม้ เปรียบดังอสรพิษกัฎมุขขบตอด ธาตุใด้พิการ
1. เป็นพราะปถวีธาตุพิการ
2. เป็นเพราะอาโปธาตุพิการ
3. เป็นเพราะเตโชธาตุพิการ
4. เป็นเพราะวาโยธาตุพิการ
ข้อ 37. มุขโรคเกิดจากอะไร
1. เกิดจากน้ำลาย
2. เกิดจากลม
3. เกิดจากโลหิต
4. เกิดจากทุกสิ่งที่อยู่ในปาก
ข้อ 38. กาฬที่ทำพิษให้สลบ ถ้าไม่รู้ถึงโรคสำคัญว่าลมจับ ถ้าสงสัยให้เอาเทียนส่องดู คือกาฬอะไร
1. กาฬแม่ตะงาว
2. กาฬฟองสมุทร
3. กาฬตะบองพะลำ
4. กาฬตะบองชนวน
ข้อ 39. บ้อใดที่กล่าวถึงชื่อและอาการไม่ถูกต้อง
1. สันนิบาตกะตัดศีรษะด้วนจะเป็นแผลบริเวณศีรษะ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย
2. สันนิบาตทุวันโทษ จะปัสสาวะเหลือง
3. สันนิบาตเจรียงอากาศจะปัสสาวะเหลืองดุจน้ำกรักอันแก่
4. สันนิบาตบังเกิดเพื่อวาตะจะขัดปัสสาวะ
ข้อ 40. ไข้งูสวัด(ตวัด) มีลักษณะการผุดอย่างไร
1. ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดทรายขึ้นมาเป็นแถวๆ มีสัณฐานเหมือนงู เป็นเม็ดพองๆ เป็นเงาหนอง ถ้าหญิงเป็นซาย ชายเป็นขวา
2. ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดทราบทั่วทั้งตัว มียอดแหลมๆสีดำๆ
3. ผุดขึ้นมาเป็นฝีดาษทั่วทั้งตัว ทำพิษให้สลบ
4. ถูกหมดทุกข้อ
บ้อ 41. ไข้ใดมีอาการขมในปาก อยากกินแต่ของแสลง เนื้อสั่นระริก และเสียวไปทั้งตัว จุกเสียดบิดขี้เกียจ ยอกเสียดในอก ร้อนรุ่มกลุ้มใจ หายใจขัดเพราะในท้องมีก้อน อาการดังกล่าวนี้เป็นไข้เพื่ออะไร
1. ไข้เพื่อดี
2. ไข้เพื่อลม
3. ไข้เพื่อกำเดา
4. ไข้เพื่อโลหิต
ข้อ 42. ไข้ที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนแต่น้ำลาย เป็นไข้อะไร
1. ไข้ที่เกิดจาดเลือด
2. ไข้ที่เกิดจากเลือดและลม
3. ไข้ที่เกิดจากเลือดลมและน้ำเหลือง
4. ไข้ที่เกิดจากเลือดลม, น้ำเหลืองและเสมหะ
ข้อ 43. ไข้มีอาการตัวร้อนจัด ปวดหัว กระหายน้ำ เจ็บตามเนื้อตามตัว ปัสสาวะเหลือง ผิวตัวแดง ฟันแห้ง ลิ้น คางแข็ง ปากแห้ง น้ำลายหนียว ที่กล่าวมานี้เป็นอาการของไข้อะไร
1. กำเดาสมุฎฐาน
2. เสมหะสมุฎฐาน
3. โลหิตสมุฎฐาน (ไข้เพื่อโลหิต)
4. ถูกทุกข้อ
ข้อ 44. ไข้มีอาการให้ปวดศีรษะมาก ให้ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว ให้ไอ สะบัดร้อนสะท้านหนาว ให้ปากแห้ง คอแห้ง เพดานแห้ง ฟันแห้ง ให้เซื่อมมัว ให้เมื่อยไปทั้งตัว จับไม่เป็นเวลา บางทีผุดขึ้นเป็นเม็ด บางทีให้ไอเป็นโลหิตออกทางจมูก ทางปาก บางทีให้ชักเท้ากำ มือกำ เป็นอาการของไข้อะไร
1. ไข้กำเดาน้อย
2. ไข้กำเดาใหญ่
3. ไข้หวัดน้อย
4. ไข้หวัดใหญ่
ข้อ 45. ไข้ลำประชวร นัยน์ตาขุ่นคล้ำและมัว เป็นไข้เพื่ออะไร
1. ลม
2. ดี
3. กำเดา
4. เสมหะ
ข้อ 46. คัมภีร์ตักศิลา เป็นคัมภีร์ที่กล่าวถึงลักษณะอาการการรักษาไข้พิษไข้กาฬต่างๆ โดยกำหนดฝีกาฬ จัดแบ่งได้กี่ชนิด ?
1. 4 ชนิด
2. 5 ชนิด
3. 6 ชนิด
4. 7 ชนิด
ข้อ 47. ชื่อใดเป็นชื่อไข้ประดง(ไข้กาฬแทรกไข้พิษ)
1. ไข้ประดงช้าง, ม้า, วัว, ควาย
2. ไข้ประดงดิน,น้ำ,ลม,ไฟ
3. ไข้ประดงเสือ,สิงห์,กระทิง,แรด
4. ไข้ประดงมด,แมว,ลิง,แรด
ข้อ 48. ในคัมภีร์สิทธิสารสงเคราะห์ ได้กล่าวถึงสันนิบาตชนิดหนึ่ง เมื่อจับแล้วมีอาการให้หน้าเหลืองดุจทาขมิ้น ฝ่ามือฝ่าเท้าเหลือง เวียนศีรษะ แสบตา กระหายน้ำ ปัสสาวะเหลือง คืออาการสันนิบาตชนิดใด
1. สันนิบาตบังเกิดพื่อเสมหะ
2. สันนิบาตเจรียงพระสมุทร
3. สันนิบาตบังเกิดเพื่อวาตะ
4. สันนิบาตเจรียงอากาศ
ข้อ 49. มีลักษณะผุดขึ้นมาเป็นแผ่นสีแดง ทำพิษให้ปวดศีรษะ เซื่อมมัว จับสะท้านร้อน สะท้านหนาว ตรงกับไข้อะไร
1. ไข้งูสวัด
2. ไข้เริมน้ำค้าง
3. ไข้ลำบาบเพลิง
4. ไข้กำแพงทะลาย
ข้อ 50. มีลักษณะผุดขึ้นมาเหมือนตาปลา ทำให้ปวดแสบปวดร้อน เรียกว่าประดงชนิดใด
1. ประดงลิง
2. ประดงแมว
3. ประดงแรด
4. ประดงไฟ
ข้อ 51. ยารักษาไข้พิาไข้กาฬที่แพทย์แผนโบราณนิยมใช้กันมากใช้ยาอะไร ?
1. ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง เหง้าขิงแห้ง
2. รากชิงชี่ รากหญ้านาง รากคนทา รากเท้ายายม่อม รากมะเดื่อชุมพร
3. ใบย่านาง ใบมะขาม เถาวัลย์เปรียง รากฟักข้าว ข้าวสาร
4. ใบมะยม ใบคนทีสอ ใบมะนาว ใบหมากผู้ ใบหมากเมีย
ข้อ 52. ลักษณะของไข้วันเวลาที่ไข้กำเริบมีกำลังวันเท่าใด
1. กำเดากำเริบ 4 วัน, เสมหะกำเริบ 9 วัน, โลหิตกำเริบ 8 วัน,ลมกำเริบ 12 วัน
2. กำเดากำเริบ 4 วัน, เสมหะกำเริบ 8 วัน, โลหิตกำเริบ 9 วัน, ลมกำเริบ 12 วัน
3. กำเดากำเริบ 4 วัน, เสมหะกำเริบ 9 วัน, โลหิตกำเริบ 7 วัน, ลมกำเริบ 13 วัน
4. กำเดากำเริบ 4 วัน, เสมหะกำเริบ 7 วัน, โลหิตกำเริบ 9 วัน, ลมกำเริบ 13 วัน
ข้อ 53. ลักษณะไข้ ทุวันโทษ มีอาการหนาว ต่อมาจะรู้สึกร้อน(ร้อนๆ หนาวๆ) วิงเวียน เหงื่อไหล ปวดหัว นัยน์ตามัว เบื่ออาหาร เป็นทุวันโทษ ไข้ประเภทใด ?
1. ลมและกำเดา
2. ลมและเสมหะ
3. กำเดาและเสมหะ
4. กำเดาและโลหิต
ข้อ 54. ลักษณะไข้มีอาการเร่าร้อน กระหายน้ำ กลางคืนนอนหลับไม่สนิท จิตใจระส่ำระสาย เหงื่อตก หน้าเหลือง อาเจียนเป็นสีเหลือง มีโลหิต นัยน์ตาแดงจัด เป็นไข้ตรีโทษอะไร
1. ตรีโทษ โลหิต เสมหะและกำเดา
2. ตรีโทษ เสมหะ กำเดาและลม
3. ตรีโทษ กำเดา โลหิตและลม
4. ผิดหมดทุกข้อ
ข้อ 55. ลักษณะผุดขึ้นตามตัวขนาดเท่าผลปลัง เมล็ดถั่วดำ เมล็ดถั่วเขียว หรือเมล็ดจิงจ้อ มีเงาหนอง ตรงตามข้อใด
1. กาฬทาม
2. กาฬทูม
3. กาฬละลอกแก้ว
4. ผิดทุกข้อ
ข้อ 56. สันนิบาตสองคลอง สาเหตุเกิดจากป่วงอะไร
1. ป่วงลิง
2. ป่วงงู
3. ป่วงลม
4. ป่วงลูกนก
ข้อ 57. อาการผุดขึ้นมาเหมือนผิวมะกรูด ทำพิษให้ปวดร้อน คัน เป็นอาการของไข้ประดงใด
1. ไข้ประดงแรด
2. ไข้ประดงช้าง
3. ไข้ประดงแมว
4. ไข้ประดงลิง
ข้อ 58. การวิเคราะห์ลักษณะประเภทไข้ ไข้เพื่อเสมหะเอกโทษ คืออาการใด
1. ให้หนาว ให้ร้อน ขนลุก แสยงขน จุกอก ให้หลับไหล กินไม่ได้ อ่อนแรง ฝ่ามือ ฝ่าเท้าซีดเผือด ให้ปากหวาน ให้ราก
2. ให้ปากขม ร้อนละเมอเพ้อคลั่ง ปวดศีรษะ อยากน้ำ กายเหลือง หน้าตาเหลือง ปัสสาวะแดง ให้ตึงแตกระแหง เป็นไข้
3. ให้ตัวร้อน ปวดศีรษะมาก หน้าตาแดง ปัสสาวะเหลืองๆ
4. ให้ขนลุก ขนชัน หนาวสะท้าน ปวดศีรษะ เวียนหน้าตา มักโกรธง่าย เสียดแทงในอก กระหายน้ำ ท้องเป็นก้อน
ข้อ 59. กาลเอกโทษเสมหะ เสมหะกระทำเต็มที่ไม่มีระคน ในข้อใด
1. เวลา 07.00 - 08.00 น.
2. เวลา 08.00 - 09.00 น.
3. เวลา 09.00 - 10.00 น.
4. เวลา 10.00 - 11.00 น.
ข้อ 60. ไข้ใดมีอาการปวดหัวมาก ไอ หาวนอน บิดตัวเกียจคร้าน เหงื่อไหล เป็นเพราะถูกลม เสมหะมาทับระคน คนไข้เป็นอะไร
1. ไข้เพื่อลมและเสมหะ
2. ไข้เพื่อเสมหะและกำเดา
3. ไข้เพื่อกำเดาและลม
4. ไข้เพื่อโลหิตและลม
ข้อ 61. ไข้เพื่อเสมหะ ท่านกำหนดไว้ว่ามีกี่องศา จึงจะเป็นสันนิบาต ?
1. กำหนดไว้ 30 องศา
2. กำหนดไว้ 15 องศา
3. กำหนดไว้ 20 องศา
4. ไม่มีข้อใดถูก
ข้อ 62. ไข้สังวาลย์พระอินทร์ เป็นไข้พิษในข้อใด
1. ไข้พิษไข้กาฬ 21 จำพวก
2. ไข้กาฬแทรกไข้พิษ 8 จำพวก
3. ไข้กาฬ 10 จำพวก
4. ฝีกาฬในไข้พิษ 10 จำพวก
ข้อ 63. คนไข้ผิวขาว โลหิตรสหวาน ใช้ยารสเผ็ดร้อน และขม เป็นการวิเคราะห์โรคตามวิธีใด
1. เป็นการวิเคราะห์ตามการสังเกตุผิวกาย
2. เป็นการวิเคราะห์ตามโหงวเฮ้ง
3. เป็นการวิเคราะห์ตามโลหิตฉวี
4. เป็นการวิเคราะห์ตามกระแสเลือด
ข้อ 64. คนไข้มีอาการหนังสากชาไปทั้งตัว แม้แมลงวันจะจับหรือไต่ที่ตัวก็ไม่รู้สึก ให้แสบร้อนเป็นกำลัง สาเหตุอะไรพิการ
1. เนื้อพิการ
2. หนังพิการ
3. ผมพิการ
4. เอ็นพิการ
ข้อ 65. คนไข้มีอาการให้เมื่อยขบขัดทุกข้อทุกกระดูก ให้ยกมือยกเท้าไม่ไหว เจ็บปวดเป็นกำลังเป็นอาการของลมอะไร
1. ลมอโธคมาวาตาพิการ
2. ลมอุทธังคมาวาตาพิการ
3. ลมกุจฉิสยาวาตาพิการ
4. ลมโกฎฐาสยาวาตาพิการ
ข้อ 66. คนไข้อะไรพิการที่มีลักษณะอาการคือ บวมมือ บวมเท้า เป็นน้ำเหลืองตก ผอมแห้ง คือ
1. เสมหะพิการ
2. น้ำมูกพิการ
3. มันเหลวพิการ
4. ไขข้อพิการ
ข้อ 67. เดือน 11, 12, และ 1 ทั้งสามเดือนนี้ อาหารที่กินมันผิดสำแดง อาโปธาตุพิการ มักให้ขึ้งโกรธ สะดุ้งตกใจ หวาดกลัว เกิดจากอะไร
1. ดีพิการ
2. เสมหะพิการ
3. หนองพิการ
4. โลหิตพิการ
ข้อ 68. เตโชธาตุพิการ ให้เย็นในอก จุกเสียดขัดอก กระทำให้เกิดลม 6 จำพวก ลมในข้อใดไม่ใช่
1. ลมอัสวาตะ
2. ลมชิวหาสดมภ์
3. ลมมหาสดมภ์
4. ลมอนุวาตะ
ข้อ 69. ธาตุ 4 เป็นตรีโทษ อาการให้ผอมเหลือง ซูบ เศร้าหมอง จุกอกเป็นก้อนในทรวงและท้องให้ราก สะอึก เรอ ใจสั่น หวานปาก อาเจียน ร้อนอก ปวดศีรษะ เจ็บอก คันตัว ผุดแดงดังสีเสียด ไอเป็นดังหืด ตามัว เกิดกับธาตุใด
1. ปถวีธาตุ
2. อาโปุธาตุ
3. วาโยธาตุ
4. เตโชธาตุ
ข้อ 70. ในคัมภีร์โรคนิทาน คำว่า มรณะด้วยโบราณโรค หมายถึงข้อใด
1. สิ้นอายุปรโยสาน
2. โอปักกะมิกาพาธ
3. ธาตุดิน ขาดก่อน
4. สิ้นลมหายใจเข้าออก
ข้อ 71. ในสมุฎฐานฤดู 6 เฉพาะ เหมันตฤดู ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. พิกัดเสมหะสมุฎฐาน วาตะสมุฎฐานระคน
2. พิกัดปิตตะสมุฎฐาน เสมหะสมุฎฐานระคน
3. พิกัดวาตะสมุฐาน ปิตตะสมุฎฐานระคน
4. พิกัดปิตตะสมุฎฐาน วาตะสมุฎฐานระคน
ข้อ 72. พระคัมภีร์ธาตุวิวรณ์ กล่าวถึงลักษณะอาการของตรีโทษนั้น ข้อใด ไม่ใช่อาการของตรีโทษ
1. ร้อนกระวนกระวาย
2. ลงท้องเป็นมูกเลือด
3. หายใจขัดทั้งเข้าออก
4. ตัวเหลืองเหมือนทาขมิ้น
ข้อ 73. พระคัมภีร์โรคนิทาน กล่าวถึง " อาหารผิดสำแดง" หมายความว่าอะไร
1. อาหารไม่ถูกรสปาก
2. อาหารไม่ถูกกับธาตุ
3. อาหารบูดเน่า
4. อาหารรสจัด
ข้อ 74. พิกัดกองสมุฎฐาน ได้แก่อะไรบ้าง ?
1. ธาตุสมุฎฐาน อายุสมุฎฐาน ฤดูสมุฎฐาน กาลสมุฎฐาน
2. อายุสมุฎฐาน ฤดูสมุฎฐาน อาโปสมุฎฐาน กาลสุมฎฐาน
3. วัยสมุฎฐาน ธาตุสมุฎฐาน อายุสมุฎฐาน กาลสมุฎฐาน
4. ปัถวีสมุฐาน ฤดูสมุฎฐาน อายุสมุฎฐาน กาลสมุฎฐาน
ข้อ 75. มีอาการให้ตัวเย็น และตัวขาวซีด สากชาไปทั้งตัว สวิงสวาย หากำลังมิได้ เป็นอาการของข้อใด
1. เสโทพิการ
2. อัสสุพิการ
3. เมโทพิการ
4. เขโฬพิการ
ข้อ 76. มูลเหตุของการเกิดโรคตามคีมภีร์ธาตุวิวรณ์มีกี่ประการ
1. 4 ประการ
2. 6 ประการ
3. 8 ประการ
4. 10 ประการ
ข้อ 77. เสมหะกำเริบในเวลาใด
1. เวลาเที่ยงวัน อาหารยังไม่ย่อยยับ เวลาเที่ยงคืน
2. เวลาเช้า บริโภคอาหารแล้ว เวลาพลบค่ำ
3. เวลาบ่าย อาหารย่อยแล้ว เวลานอนหลับ
4. เวลาบ่าย อาหารยังไม่ย่อย เวลาเที่ยงคืน
ข้อ 78. ให้มีอาการดิ้นรน มือ เท้า ขวักไขว่ ให้พลิกตัวไปๆมาๆ ให้ทุรนทุราย ให้หาวเรอบ่อยๆ คือธาตุใดพิการ
1. อุทธังคมาวาตาพิการ
2. อโธคมาวาตาพิการ
3. อังคมังคานุสารีวาตาพิการ
4. อัสสาสะปัสสาสะวาตาพิการ
ข้อ 79. อาการไข้ต่อไปนี้ เป็นการแสดงออกของไข้ใด อาการปวดหัว ตัวร้อน หน้าแดง ตาแดง น้ำตาคลอ นัยน์ตาแดงดังโลหิต
1. ไข้เพื่อโลหิต
2. ไข้เพื่อกำเดา
3. ไข้เพื่อเสมหะ
4. ไข้เพื่อดี
ข้อ 80. อาการทำพิษให้เน่าเปื่อย ให้ขาดเป็นชิ้นๆ ดุจถูกงูพิษสัตถมุขขบกัด เป็นอาการของธาตุใดพิการ
1. ปถวีธาตุ
2. วาโยธาตุ
3. เตโชธาตุ
4 อาโปธาตุ
ข้อ 81. อาการให้คลุ้มคลั่งดุจเป็นบ้า ให้หิวโหยหาแรงไม่ได้ ให้ทุรนทุรายยิ่งนัก เป็นอาการของอะไรพิการ
1. ปิตตังพิการ
2. หทยังพิการ
3. นหารูพิการ
4. เสมหังพิการ
ข้อ 82. อาโปธาตุเมื่อขาดใป 11 ยังเหลืออะไรอยู่
1. น้ำลายยังอยู่
2. น้ำดียังอยู่
3. โลหิตยังอยู่
4. น้ำมูตรยังอยู่
ข้อ 83. ในรัชสมัยใด ที่ทรงจัดสร้างรูปจุดนวดที่วัดกลาง จังหวัดสงขลา
1. รัชกาลที่ 1
2. รัชกาลที่ 2
3. รัชกาลที่ 3
4. รัชกาลที่ 4
ข้อ 84. ศิลาจารึกตำรับบาบนฝาผนังของวัดโพธิ์ จ้ดทำขึ้นในสมัยใด
1. รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
2. รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
3. รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
4. รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ข้อ 85. หมอที่หลงเชื่อว่ายาของตนดี รักษาไข้หายได้โดยไม่ตรวจอาการไข้ก่อนที่จะวางยา จัดว่าลุแก่อคติข้อใด
1. ฉันทาคติ
2. โทสาคติ
3. ภยาคติ
4. โมหาคติ
ข้อ 86. ข้อใดคือพิกัดเบญจโลธิกะ
1. จันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์เทศ จันทน์ชะมด จันทนา
2. จันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์ชะมด เนระพูสี มหาสดำ
3. จันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์ชะมด จันทนา เนระพูสี
4. จันทน์แดง จันทน์ขาว จันทน์เทศ จันทนา มหาสดำ
ข้อ 87. คนไข้มีอาการ "ให้ลงท้อง ให้จุกเสียด ให้พะอืดพะอม ให้สะอึก" ท่านจะพิเคราะห์ว่าเป็นอะไร
1. อันตังพิการ
2. อันตคุณังพิการ
3. อุทริยังพิการ
4. กรีสังพิการ
ข้อ 88. จำพวกสัตว์น้ำ มีสรรพคุณในการรักษานั้น ในข้อใดที่จะใช้รักษากระษัยปลาหมอ ดี แก้พยาธิกิน แก้ผมร่วงเป็นหย่อมๆช่วยให้ผมดำ
1. ปลาช่อน
2. ปลาหมอ
3. ปลากระเบน
4. ปลาพยูน
ข้อ 89. เตโชธาตุ 4 อย่าง อย่างไรที่สำหรับร้อนระส่ำระสาย ต้องอาบน้ำ และพัดหวี
1. ปริณามัคคี
2. ปริทัยหัคคี
3. ชิรณัคคี
4. สันตับปัคคี
ข้อ 90. ธาตุดิน มีกี่ประการ
1. 20 ประการ
2. 21 ประการ
3. 22 ประการ
4. อาจมากกว่านี้ก็ได้
ข้อ 91. นกเป็นสัตว์ที่มีปีกบินไปมาได้ในอากาศ ถ้าจะปรุงยาแก้ไข้พิษ ไข้กาฬ แก้พิษตานซาง จะใช้นกใด
1. นกนางแอ่น
2. นกกาหรืออีกา
3. นกกรด
4. นกยูง
ข้อ 92. น้ำมันไขข้อ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร
1. ปุพโพ
2. ลสิกา
3. วสา
4. เสโท
ข้อ 93. ผู้ป่วยที่อาการให้ขัดข้อมือข้อเท้า เป็นมองคร่อ คือปอดเป็นหวัด เกิดจาก
1. สันตัปปัคคีพิการ
2. ชิรนัคคีพิการ
3. ปริทัยหัคคีพิการ
4. ปริณามัคคีพิการ
ข้อ 94. พิกัดจตุวาตผล คือการจำกัดจำนวนตัวยา 4 อย่าง เรียกว่า พิกัดจตุวาตผล ข้อใดถูก
1. เหง้าขิง กระลำพัก อบเชยเทศ โกฐเชียง
2. เหง้าขิง กระลำพัก โกฐหัวบัว ชะเอมเทศ
3. เหง้าขิง อบเชยเทศ กระลำพัก โกฐหัวบัว
4. เหง้าขิง โกฐหัวบัว อบเชยเทศ ชะเอมเทศ
ข้อ 95. มัามในความหมายแพทย์แผนไทย หมายถึงข้อใด ?
1. ยกนัง
2. วักกัง
3. ปัปผาสัง
4. อันตัง
ข้อ 96. เมื่อพิการให้อกแห้ง ให้กระหายน้ำ และเป็นโรค เช่นริดสีดวงผอมแห้ง ชื่อว่าอะไรพิการ
1. ยกนัง
2. กิโลมกัง
3. ปิหกัง
4. ปัปผาสัง
ข้อ 97. ฤดู 3 หนึ่งปีแบ่งออกเป็น 3 ฤดูๆละ 4 เดือน วสันตฤดู นับตั้งแต่เมื่อใดถึงเมื่อใด
1. นับตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 4 ถึง 15 ค่ำเดือน 8
2. นับตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 8 ถึง 15 ค่ำเดือน 12
3. นับตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 12 ถึงขึ้น 15 ค่ำเดือน 4
4. นับตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 4 ถึงขึ้น 15 ค่ำเดือน 8
ข้อ 98. สัตว์น้ำ ที่มีสรรพคุณในการทำยาต่างๆ ได้ ถ้าจะใช้ทำยาขับเลือดเน่าร้าย หลังจากคลอดบุตร และขับน้ำคาวปลา ควรใช้อวัยวะของสัตว์ชื่อใด
1. ตะพาบน้ำ
2. ปลากระเบน
3. ปลาพะยูน
4. ปลาวาฬ
ข้อ 99. อวัยวะธาตุที่ทำหน้าที่ขับปัสสาวะออกจากร่างกาย เรียกว่าอะไร
1. หทยัง
2. ยกนัง
3. ปิหกัง
4. มัตถเกมัตถลุงคัง
ข้อ 100. อาการทำให้ร้อนภายนอกภายใน มือเท้าเย็น เหงื่อออก เกิดจากธาตุใดพิการตรงกับข้อใด?
1. ชิรณัคคีพิการ
2. สันตัปปัคคีพิการ
3. ปริทัยหัคคีพิการ
4. ลมสุมนาพิการ