41. ในคดีแพ่ง ผู้ใดมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริง
ก. คู่ความฝ่ายที่กล่าวอ้างข้อเท็จจริง ข. โจทก์
ค. จำเลย ง. คู่ความ
42. กรณีใด กฎหมายกำหนดให้ศาลยอมรับฟังสำเนาเอกสาร เป็นพยานหลักฐานแห่งเอกสารนั้นได้
ก. เมื่อคู่ความที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตกลงกันว่าสำเนาเอกสารนั้นถูกต้องแล้ว
ข. ถ้าต้นฉบับเอกสารหาไม่ได้ เพราะสูญหาย
ค. ถ้าต้นฉบับเอกสารถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่น
ง. ถูกทุกข้อ
43. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2548 นางเจนซึ่งเป็นชาวต่างชาติร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์เอากล้องถ่ายรูปและเงินดอลลาร์สหรัฐไป โดยมีนายขาวเป็นประจักษ์พยานยืนยันว่าคนร้ายคือนายดำ แต่นางเจนจะต้องเดินทางกลับประเทศตนโดยด่วน พนักงานสอบสวนจึงเสนอเรื่องต่อพนักงานอัยการขอให้ทำคำร้องต่อศาลขอสืบนางเจนเป็นพยานต่อศาลไว้ก่อนฟ้อง ทั้งที่ยังติดตามจับตัวนายดำไม่ได้ ดังนี้พนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอสืบนางเจนไว้ก่อนฟ้องได้หรือไม่
ก. ก็สามารถขอสืบนางเจนลับหลังนายดำได้ เพราะไม่มีพยานคนอื่นๆ ตามมาตรา 237 ทวิ
ข. ก็สามารถขอสืบนางเจนลับหลังนายดำได้ ถือเป็นกรณียกเว้นตามที่มาตรา 237 ทวิ
ค. ไม่สามารถขอสืบนางเจนลับหลังนายดำได้ เพราะตามมาตรา 237 ทวิ ต้องสืบต่อหน้าจำเลย
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
44. พยานมีกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
45. เมื่อมีการอ้างเอกสารใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล ให้ศาลดำเนินการอย่างไรถึงจะถูกต้อง
ก. อ่านหรือส่งให้คู่ความตรวจดู ข. สำเนาให้คู่ความแกฝ่ายหนึ่ง
ค. สั่งให้ฝ่ายที่อ้างนั้นส่งสำเนาแก่อีกฝ่ายหนึ่งตามที่เห็นสมควร ง. ถูกทุกข้อ
46. ในกรณีเมื่อจำเป็นศาลมีอำนาจไปเดินเผชิญสืบพยานได้เอง หากจะมอบอำนาจให้บุคคลใดไปเดินเผชิญสืบแทนก็ได้
ก. ศาลที่รับประเด็นจากศาลเดิม ข. จ่าศาล
ค. พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
47. ในคดีแพ่ง โจทก์อ้างภาพถ่ายบริเวณที่เกิดเหตุเป็นพยาน เพื่อสนับสนุนข้ออ้างของตนแต่ไม่ได้ยื่นบัญชีพยานและส่งสำเนาภาพถ่ายดังกล่าวให้แก่จำเลย ซึ่งจำเลยได้คัดค้านว่าไม่ชอบ ขอทราบว่าคำคัดค้านของจำเลยฟังขึ้นหรือไม่
ก. ฟังขึ้น ข. ฟังไม่ขึ้น เพราะจำเลยไม่ได้ร้องขอ
ค.ฟังไม่ขึ้น เพราะภาพถ่ายบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่ใช่พยานเอกสาร ง. แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล
48. ต้นฉบับสัญญาค้ำประกันสูญหายเพราะถูกจำเลยลักไป เป็นเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถส่งต้นฉบับเอกสารเป็นพยานได้ ศาลจะดำเนินการอย่างไร
ก. ให้โจทก์ติดตามสัญญาค้ำประกันต้นฉบับมาให้ได้
ข. ยกฟ้อง เนื่องจากขาดพยานหลักฐาน
ค. ถือว่าข้อเท็จจริงตามสัญญาค้ำประกันจำเลยรับแล้ว เพราะเป็นความผิดของจำเลย
ง. ศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบได้ ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 93(2)
49. ข้อใดเป็นข้อยกเว้น ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94
ก. ถ้าต้นฉบับเอกสารหาไม่ได้ ศาลจะอนุญาตให้นำสำเนาหรือพยานบุคคลมาสืบก็ได้
ข. นำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างว่า พยานเอกสารที่แสดงนั้นเป็นเอกสารปลอม
ค. นำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างว่า คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตีความหมายผิด
ง. ถูกทุกข้อ
50. สัญญาเช่าตึกแถวพิพาทกำหนดอัตราค่าเช่าไว้เดือนละ 1,000 บาท เมื่อครบกำหนดอายุการเช่า 1 ปี จำเลยคงอยู่ในตึกแถวที่เช่าโดยโจทก์ไม่ทักท้วง ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยบังคับค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท โดยอ้างว่าหลังครบกำหนดการเช่าครั้งแรก โจทก์กับจำเลยตกลงเช่าตึกแถวเป็นเดือนละ 2,000 บาท โดยโจทก์นำนายแดง พยานผู้รู้เห็นการขึ้นค่าเช่ามานำสืบ ศาลจะรับฟังปากคำของนายแดงฯ ชอบหรือไม่
ก. ชอบ เพราะเป็นผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์
ข. ชอบ เพราะเป็นประจักษ์พยาน
ค. ไม่ชอบ เพราะเป็นการสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสาร
ง. ไม่ชอบ เพราะมีพยานเอกสารอยู่แล้ว
ข้อสอบ รวมชุดที่ 2 (ปราบปราม)
51. พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ 2547 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข. ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา 180 วัน ง. วันที่ 14 เม.ย.2547
52. สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่กี่ประการ
ก. 6 ประการ ข. 7 ประการ ค. 8 ประการ ง. 9 ประการ
53. การแบ่งส่วนราชการและกำหนดอำนาจหน้าที่ ของกองบังคับการ และ กองกำกับการ ให้ทำเป็น
ก. พระราชกำหนด ข. พระราชกฤษฎีกา
ค. กฎกระทรวง ง. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
54. การประกาศรายชื่อ คณะกรรมการ ก.ต.ช. ผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องประการใน
ก. พระราชกำหนด ข. พระราชกฤษฎีกา
ค. กฎกระทรวง ง. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
55. ข้อใดถือเป็น องค์ประชุมของ ก.ต.ช.
ก. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ข. ต้องมีกรรมการมาประชุมเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ค. ต้องมีกรรมการมาประชุมตั้งแต่หกคนขึ้นไป
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ค.
56. ร.ต.อ.อ่อนฯ กระทำความผิดร้ายแรง จำเป็นจะต้องถูกถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร ขอทราบว่าต้องกระทำอย่างใด
ก. การถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร ต้องเป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ทำโดยประกาศพระบรมราชโองการ
ข. การถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร ต้องเป็นไปตามระเบียบสำนักงานนายกรัฐมนตรี และให้ทำโดยประกาศพระบรมราชโองการ
ค. การถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร ต้องเป็นไปตาม กฎ ก.ตร. และให้ทำโดยประกาศพระบรมราชโองการ
ง. การถอดหรือการออกจากยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร ต้องเป็นไปตามกฎ ก.ตร. และให้ทำโดยประกาศราชกิจจานุเบกษา
57. ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในสาขาใด ที่ไม่ใช่คุณสมบัติจะเป็น ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภทไม่เป็นข้าราชการตำรวจ
ก. เศรษฐศาสตร์ ข. รัฐประศาสนศาสตร์
ค. อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม ง. วิทยาศาสตร์
58. ในกรณีที่ ก.ตร. พิจารณาเห็นว่าการปฏิบัติการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เหมาะสมหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้มีมติสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติการให้ถูกต้องเหมาะสม ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ปฏิบัติการตามมติดังกล่าว ให้ ก.ตร.ดำเนินการอย่างไร
ก. รายงานต่อ ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาและสั่งการแก้ไขภายใน 15 วัน หาก ผบ.ตร.ไม่แก้ไขให้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและสั่งการต่อไป
ข. รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและสั่งการต่อไป
ค. รายงานต่อ ก.ต.ช.เพื่อพิจารณาและสั่งการต่อไป
ง. รายงานต่อ ก.ต.ช.เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและสั่งการต่อไป
59. การเลือกกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๓๐ (๒) (ก) ผู้ใดมีหน้าที่รับสมัครบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของการเป็นกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ
ก. นายกรัฐมนตรี ข. ประธาน ก.ตร.
ค. ผบ.ตร. ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
60. กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ กรณีใดเมื่อได้รับการคัดเลือก แล้วต้องเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ก. กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๓๐ (๒) (ก)
ข. กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๓๐ (๒) (ข)
ค. กรรมการข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่งตามมาตรา ๓๐ (๑)
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
ระเบียบงานสารบรรณที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเริ่มใช้บังคับตั้งแต่ เมื่อใด
61. นายแดงเป็นเจ้าของช้างซึ่งกำลังตกมัน นายแดงปล่อยช้างอยู่ตามลำพัง โดยเพียงแต่ใช้เชือกผูกไว้กับต้นไม้ แทนที่จะใช้โซผูก ช้างหลุดจากเชือกที่ผูกและตรงเข้าจะใช้งาแทงนายดำ นายดำกลัวจึงใช้ปืนยิงช้างของนายแดง กระสุนถูกช้างของนายแดงตายและกระสุนยังพลาดไปถูกช้างของนายเหลืองซึ่งอยู่ห่างออกไปตายด้วย ดังนี้ ให้วินิจฉัยความผิดของนายดำ
ก. นายดำไม่มีความผิดทำให้เสียทรัพย์ เพราะอ้างเหตุป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ข. นายดำไม่มีความผิดทำให้เสียทรัพย์ช้างของแดง แต่ต้องรับผิดการตายของช้างนายเหลือง
ค. นายดำมีความผิดทำให้เสียทรัพย์ช้างทั้งสองตัว
ง. นายดำมีความผิดทำให้เสียทรัพย์ แต่ไม่ต้องรับโทษ เพราะเหตุจำเป็น
62. เจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมนายเช้ากับนายเที่ยงข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ นายเช้ากับนายเที่ยงวิ่งหนี แล้วนายเช้าหันมาต่อสู้โดยชักอาวุธปืนออกจากเอวแล้วกระชากลูกเลื่อนเพื่อให้กระสุนเข้าลำกล้อง แต่เจ้าพนักงานตำรวจแย่งเอาอาวุธปืนจากนายเช้าไว้ได้ก่อนที่จะกระชากลูกเลื่อนสำเร็จ จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจไล่ติดตามจับกุมนายเที่ยง นายเที่ยงเห็นจวนตัวชักปืนยิงเจ้าพนักงานตำรวจ แต่กระสุนด้าน โดยนายเที่ยงเคยใช้ยิงมาก่อน จึงทราบว่าเป็นกระสุนปืนที่ด้าน แต่เข้าใจว่ายังใช้ได้ ดังนี้ นายเช้ามีความผิดฐานใดหรือไม่
ก. นายเช้าผิดฐานต่อสู้ขัดขวาง
ข. นายเช้าผิดฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางและร่วมกันพยายามฆ่า
ค. นายเช้าผิดฐานต่อสู้ขัดขวาง และพยายามฆ่า
ง. นายเช้าผิดฐานต่อสู้ขัดขวาง ไม่ผิดฐานพยายามฆ่า
63. ตามข้อ 12 นายเที่ยงมีความผิดฐานใด
ก. นายเที่ยงผิดต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้
ข. นายเที่ยงผิดฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางและร่วมกันพยายามฆ่า
ค. นายเที่ยงผิดพยายามฆ่า
ง. นายเที่ยงผิดต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่า
64. นางสาวเรียมอายุ 17 ปี เป็นบุตรนายเรืองกับนางเริ่มซึ่งรักใคร่ขอบพอกับนายขวัญ นายขวัญชวนนางสาวเรียมไปเที่ยวที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ นางสาวเรียมตกลง นายขวัญขับรถยนต์เก๋งมารับนางสาวเรียมที่หน้าบ้านของนางสาวเรียมแล้วไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองไปกรุงโซล ระหว่างพักด้วยกันที่กรุงโซลนั้น นายขวัญได้ร่วมประเวณีกับนางสาวเรียมหลายครั้ง โดยความสมัครใจของนางสาวเรียม เที่ยวงานอยู่ 3 วัน นายขวัญกับนางสาวเรียมจึงเดินทางกลับประเทศไทย ปรากฏว่า นายขวัญอายุ 25 ปีและมีภริยาอยู่แล้วทั้งไม่ได้มีเจตนาจะเลี้ยงดูนางสาวเรียมเป็นภริยา ดังนี้นายขวัญจะมีความผิดฐานใด
ก. นายขวัญไม่มีความผิด เพราะเป็นการยินยอม
ข. นายขวัญมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเรา
ค. นายขวัญมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์
ง. นายขวัญมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา
65. ตามข้อ 14 นายขาวจะถูกลงโทษในราชอาณาจักรหรือไม่
ก. นายขวัญไม่ต้องรับโทษในราชอาณาจักร เพราะไม่มีความผิด
ข. นายขวัญไม่ต้องถูกลงโทษในราชอาณาจักร เพราะเหตุเกิดนอกราชอาณาจักร
ค. นายขวัญต้องถูกลงโทษในราชอาณาจักร
ง. ไม่มีข้อใดถูก
66. นายอุทัยขับรถยนต์จากจังหวัดนครสวรรค์จะไปกรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงจังหวัดอ่างทองเจ้าพนักงานตำรวจตั้งด่านตรวจรถอยู่ ร้อยตำรวจโทองอาจให้สัญญาณแก่นายอุทัยให้หยุดรถ และขอตรวจใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ความจริงนายอุทัยถูกเจ้าพนักงานตำรวจยึดใบอนุญาตขับขี่ไปหลายเดือนแล้ว นายอุทับเกรงว่าตนจะถูกจับกุม จึงบอกว่าใบอนุญาตขับขี่หายไปและบอกด้วยว่าตนเป็นเป็นตำรวจเหมือนกัน พันตำรวจตรีอุทัย สารวัตรสืบสวนสอบสวนประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครสวรรค์ ขอให้ปล่อยตัวไป นายอุทัยมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก. นายอุทัยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน , แสดงตนและกระทำเป็นเจ้าพนักงาน และ ใช้ยศและตำแหน่งโดยไม่มีสิทธิ ตาม ป.อาญา มาตรา 137 ,145 , 146
ข. นายอุทัยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และ ใช้ยศและตำแหน่งโดยไม่มีสิทธิ ตาม ป.อาญา มาตรา 137 ,145 , 146
ค. นายอุทัยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน , แสดงตนและกระทำเป็นเจ้าพนักงาน ตาม ป.อาญา มาตรา 137 ,145 , 146
ง. นายอุทัยมีความผิดฐาน แสดงตนและกระทำเป็นเจ้าพนักงาน และ ใช้ยศและตำแหน่งโดยไม่มีสิทธิ ตาม ป.อาญา มาตรา 137 ,145 , 146
67. นายแดงทราบดีว่าบิดาได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ตนกับพี่ชายและน้องอีกสองคน แต่นายแดงได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกของบิดา อ้างว่าบิดาไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ศาลเชื่อตามคำเบิกความของนายแดงในการไต่สวนว่าเป็นความจริง จึงมีคำสั่งตั้งนายแดงเป็นผู้จัดการมรดก นายแดงได้นำคำสั่งศาลไปแสดงและขอโอนที่ดินมรดกต่อเจ้าพนักงานที่ดินมาเป็นชื่อนายแดงในฐานะผู้จัดการมรดก เจ้าพนักงานที่ดินได้บันทึกข้อความตามคำสั่งศาลลงไว้ว่าเป็นมรดกไม่มีพินัยกรรม และโอนมรดกใส่ชื่อนายแดงในฐานะผู้จัดการมรดก ดังนี้ นายแดงมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก. นายแดงมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ , เบิกความเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ตาม ป.อาญา มาตรา 137,177,267
ข. นายแดงมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ , เบิกความเท็จ ตาม ป.อาญา มาตรา 137,177
ค. นายแดงมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ตาม ป.อาญา มาตรา 137, 267
ง. นายแดงมีความผิดฐานเบิกความเท็จ ตาม ป.อาญา มาตรา 177
68. นายเอก นายโท และนายตรีตกลงกันปล้นหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งมีบ้าน 3 หลังอยู่ใกล้เคียงกัน โดยนายเอกกับนายโทมีอาวุธปืนคนละกระบอก นายตรีไม่มีอาวุธอะไร เมื่อเดินทางถึงหมู่บ้านนั้น นายเอกเข้าไปในบ้านหลังที่หนึ่ง นายโทเข้าไปในบ้านหลังที่สอง และนายตรีเข้าไปในบ้านหลังที่สาม นายเอกกับนายโทใช้อาวุธปืนดังกล่าวขู่เจ้าทรัพย์ให้ส่งทรัพย์ ส่วนนายตรีพูดขู่ให้เจ้าทรัพย์ส่งทรัพย์ให้ เมื่อได้ทรัพย์แล้วพากันหลบหนีไปด้วยกัน เจ้าพนักงานตำรวจติดตามไป ยิงนายเอกและนายโทตาย คงจับนายตรีได้เพียงคนเดียว ดังนี้ให้วินิจฉัยว่า นายตรีมีความผิดฐานใดบ้างหรือไม่
ก. มีความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ ,ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองฯ
ข. มีความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ ,ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองฯ
ค. มีความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ
ง. มีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์เท่านั้น
69. นายชมไปเที่ยวงานต้อนรับนางงามจักรวาลที่ท้องสนามหลวง ซึ่งวันนั้นฝนตกนายชิดตรงเข้าไปพูดขอร่มที่นายชมถืออยู่ นายชมไม่ยอมให้ นายชิดแย่งร่มไปจากนายชม นายชมแย่งคืนได้ นายชิดแย่งไปได้อีก แล้วพูดว่า “ถ้าเอ็งมีอาวุธกูแทงเสียแล้ว” ขณะพูดนายชิดใช้มือล้วงใต้เสื้อตรงขอบกางเกงหน้าท้อง แล้วนายชิดพาเอาร่มของนายชมหลบหนีไป ส่วนนายชอบเพื่อนนายชิดคิดว่านายชมต้องมีทรัพย์อื่นอีก จึงใช้มือรวบคอนายชมดูเมื่อพบว่าสวมสร้อยคอทองคำหนักหนึ่งสลึงอยู่ นายชอบก็กระตุกสร้อยดังกล่าวไป สร้อยบาดคอนายชมเป็นแผลไม่ถึงเป็นอันตรายแก่กาย ดังนี้ นายชิดและนายชอบมีความผิดฐานใด
ก. นายชิดและนายชอบมีความผิดฐานร่วมกันวิ่งราวทรัพย์
ข. นายชิดและนายชอบมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
ค. นายชิดและนายชอบมีความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์
ง. นายชิดและนายชอบมีความผิดฐานชิงทรัพย์
70. นายแสงกู้เงินนายสอนไปหนึ่งหมื่นบาทแล้วไม่ชำระ เมื่อนายสอนไปทวงนายแสงขอดูสัญญากู้ แล้วฉีกสัญญาเพื่อจะไม่ต้องชำระเงินแก่นายสอน พอนายแสงฉีกสัญญากู้ออกเป็น 2 ชิ้น นายสอนแย่งสัญญากู้ไว้ได้ก่อนที่นายแสงจะฉีกต่อไปอีก นายแสงจึงกลับบ้านแล้วนำเงินหนึ่งหมื่นบาทไปชำระให้นายสอนเรียบร้อย ดังนี้ นายแสงมีความผิดฐานใดหรือไม่
ก. นายแสงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตาม ป.อาญา มาตรา 358
ข. นายแสงมีความผิดฐานทำลายเอกสาร ตาม ป.อาญา มาตรา 188
ค. นายแสงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และทำลายเอกสาร ตาม ป.อาญา มาตรา 358, 188
ง. นายแสงไม่มีความผิด เพราะนายสอนไม่เสียหาย
71. นายสินกับนายทรัพย์คนไทยอยู่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันนำเรือประมงไปจับปลาในทะเลอาณาเขตของประเทศมาเลเซีย ถูกศาลมาเลเซียพิพากษาจำคุกคนละหกเดือน เมื่อพ้นโทษแล้วนายสินกับนายทรัพย์กลับมาอยู่เมืองไทยได้หนึ่งปี นายสินทำร้ายร่างกายนายทรัพย์ นายทรัพย์จึงฟ้องศาลขอให้ลงโทษนายสินและขอให้เพิ่มโทษตามกฏหมายด้วย ดังนี้ ถ้าศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุกนายสินหนึ่งปี ศาลจะต้องเพิ่มโทษนายสินหรือไม่ และถ้าหากศาลเห็นสมควรรอการลงโทษ ศาลจะรอการลงโทษนายสินได้หรือไม่
ก. ศาลจะเพิ่มโทษนายสินไม่ได้ แต่ศาลจะรอการลงโทษได้
ข. ศาลเพิ่มโทษนายสินได้ แต่ศาลจะรอการลงโทษได้
ค. ศาลจะเพิ่มโทษนายสินไม่ได้ และศาลจะรอการลงโทษไม่ได้
ง. ศาลจะเพิ่มโทษนายสินได้ แต่ศาลจะรอการลงโทษไม่ได้
72. นายชมและนายชิดได้เข้าไปล่าสัตว์ในป่าลึกด้วยกัน โดยต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง นายชมเห็นหลังพุ่มไม้แห่งหนึ่งมีการเคลื่อนไหว นายชมรีบร้อนไม่ตรวจตราดูให้ดีโดยคิดว่าเป็นหมูป่า นายชมจึงใช้ปืนยิงไปทันที ปรากฏว่าความจริงไม่ใช่หมูป่า แต่เป็นนายชิตซึ่งกำลังดักซุ่มจะยิงสัตว์ป่าอยู่ กระสุนปืนถูกนายชิตได้รับอันตรายสาหัสและกระสุนยังเลยไปถูกนายชัยซึ่งเดินหลงทางอยู่ในป่า ห่างไกลจากบริเวณนั้น นายชัยถึงแก่ความตาย ดังนี้ นายชมจะมีความผิดฐานใดบ้าง
ก. นายชมมีความผิดฐานพยายามฆ่านายชิด และผิดฐานฆ่านายชัยโดยพลาด
ข. นายชมมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายชิดได้รับอันตรายสาหัส และผิดฐานฆ่านายชัยโดยพลาด
ค. นายชมมีความผิดฐานยายามฆ่านายชิด และนายชมไม่มีความผิดกรณีกระสุนปืนถูกนายชัย
ง. นายชมมีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายชิดได้รับอันตรายสาหัส และนายชมไม่มีความผิดกรณีกระสุนปืนถูกนายชัย
73. นายเด่น นายกเทศมนตรี มีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการบริหารราชการทั้งปวงภายในเขตเทศบาลได้ประกาศเรียกประกวดราคาจ้างถมดินอ่างเก็บน้ำ ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดชำนาญถมชนะการประกวดราคาในราคาต่ำสุดและเป็นราคาต่ำกว่าราคากลางที่ทางราชการกำหนดไว้ นายเด่นจึงลงนามในสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดชำนาญถมเป็นผู้รับจ้างและได้ออกคำสั่งแต่งตั้งนายดวงซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัสดุมีหน้าที่ดูแลรักษาและสั่งอนุญาตใช้รถยนต์ของเทศบาล เป็นกรรมการตรวจรับงานจ้างถมดินอ่างเก็บน้ำ นายดวงได้โอกาสจึงเข้าเป็นผู้รับเหมางานช่วงจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ชำนาญถมโดยนำรถยนต์บรรทุกของทางราชการไปใช้ขนดินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชำนาญถมจนเสร็จตามสัญญา ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายเด่นและนายดวงเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชำนาญถมให้วินิจฉัยว่า นายเด่นดวงมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฐานใดหรือไม่
ก. นายเด่น ไม่มีความผิดตาม ปอ. มาตรา 152
ข. นายเด่น มีความผิดตาม ปอ. มาตรา 152 เพราะเป็นเจ้าพนักงาน
ค. นายเด่น มีความผิดตาม ปอ. มาตรา 152 เพราะเป็นเจ้าพนักงานและปฏิบัติการตามหน้าที่
ง. นายเด่น ไม่มีความผิดตาม ปอ. มาตรา 152 เพราะขาดเจตนา
74. ตามข้อ 23 นายดวงมีความผิดฐานใด
ก. นายดวง มีความผิดตาม ปอ.มาตรา 151 และ ปอ. มาตรา 152
ข. นายดวง มีความผิดตาม ปอ.มาตรา 151
ค. นายดวง มีความผิดตาม ตาม ปอ. มาตรา 152
ง. นายดวง ไม่มีความผิดตาม ปอ.มาตรา 151 และ ปอ. มาตรา 152
75. นายหนึ่งปลูกข้าวไว้ในที่นาของตนซึ่งอยู่ติดกับถนนสาธารณะ ขณะนั้นเป็นฤดูฝน นายหนึ่งเกรงว่าหากฝนตกหนักน้ำจะท่วมที่นาของตนทำให้ข้าวที่ปลูกไว้ตาย นายหนึ่งจึงขุดถนนสาธารณะข้างที่นาของตนเพื่อทำเป็นทางระบายน้ำจากที่นาลงหนองน้ำสาธารณะ นอกจากนั้น นายหนึ่งยังถ่อเรือเข้าไปตัดใบบัวที่งอกขึ้นเองในหนองน้ำนั้นเพื่อให้น้ำไหลสะดวกหากฝนตก และนายหนึ่งเห็นอยู่แล้วว่ามีต้นข้าวขึ้นสูงจะออกรวงอยู่แล้วปะปนอยู่ระหว่างกอบัวและนายหนึ่งทราบดีว่านายสองผู้เป็นชาวนาเป็นคนปลูกต้นข้าวนั้น ปรากฏว่าต้นข้าวของนายสองถูกนายหนึ่งตัดขาดไปหลายต้น ให้วินิจฉัยว่า นายหนึ่งมีความรับผิดฐานใดหรือไม่
ก. นายหนึ่งผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ถนนสาธารณะ
ข. นายหนึ่งผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ต้นข้าวของนายสอง
ค. นายหนึ่งผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ถนนสาธารณะ และผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ต้นข้าวของนายสอง
ง. นายหนึ่งไม่มีความผิดฐานใด
76. นายแดงลักแหวนเพชรของนายขาวไปจากบ้านพักที่อยู่ในท้องที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครสวรรค์ แล้วขับรถยนต์หลบหนีไปทางจังหวัดกำแพงเพชร ร้อยตำรวจเอกสมศักดิ์ เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกำแพงเพชรทราบเรื่องจึงได้ไปตั้งด่านเพื่อจับกุม แต่นายแดงรู้ตัวเสียก่อนได้ขับรถยนต์หลบหนีไปทางจังหวัดตาก ร้อยตำรวจเอกสมศักดิ์จับกุมนายแดงได้พร้อมแหวนเพชรของนายขาวที่นายแดงลักเอาไปที่อำเภอเมืองตาก จังหวัดตากนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกำแพงเพชรทำการสอบสวนดำเนินคดี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกำแพงเพชรทำการสอบสวนเสร็จ แล้วส่งสำนวนให้พนักงาน อัยการจังหวัดกำแพงเพชรดังนี้ ให้วินิจฉัยว่าพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ใดบ้างที่มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ พนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ใดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ
ก. พนักงานสอบสวนท้องที่อำเภอเมืองนครสวรรค์
ข. พนักงานสอบสวนท้องที่อำเภอเมืองกำแพงเพชร
ค. พนักงานสอบสวนท้องที่อำเภอเมืองตาก
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ค.
77. ตามข้อ 26 พนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชรมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่
ก. มีอำนาจฟ้อง
ข. ไม่มีอำนาจฟ้อง
ค. มีอำนาจฟ้อง แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากอัยการสูงสุด
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ค.
78. นางสายถูกนายกล้ายกยอกแหวนเพชรไปในเขตอำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีจึงได้ไปร้องทุกข์เรื่องที่ตนถูกนายกล้ายักยอกทรัพย์ต่อสิบตำรวจตรีซื่อ ซึ่งเป็นตำรวจจราจร สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี ต่อมาอีกหนึ่งสัปดาห์ นางสายเห็นนายกล้าเดินเที่ยวอยู่ในห้างสรรพสินค้าในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นางสายจึงแจ้งให้สิบตำรวจเอกตรง จับนายกล้า โดยแจ้งว่าได้ร้องทุกข์ไว้ตามระเบียบแล้ว สิบตำรวจเอกตรงจึงไปทำการจับกุมนายกล้าได้ในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว แล้วควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี ในระหว่างที่นายกล้าถูกควบคุมตัวโดยพนักงานสอบสวน นายกล้าได้ยื่นคำร้องต่อศาลนนทบุรี ขอให้ปล่อยตัวโดยอ้างว่าคดีนี้เป็นคดีความผิดอันยอมความได้แต่มิได้มีการร้องทุกข์ ข้ออ้างของนายกล้ารับฟังได้หรือไม่
ก. รับฟังได้ เพราะไม่ได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน
ข. รับฟังได้ เพราะไม่ได้ร้องทุกข์กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ค. รับฟังไม่ได้ เพราะการร้องทุกข์จะร้องทุกข์กับตำรวจใดก็ได้
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
79. ตามข้อ 28 หากนายกล้าต่อสู้ว่าสิบตำรวจเอกตรงทำการจับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่มีหมายจับและหมายค้น ให้วินิจฉัยว่า ข้ออ้างของนายกล้ารับฟังได้หรือไม่
ก. รับฟังได้ เพราะการจับกุมต้องมีหมายหรือคำสั่งจากศาล
ข. รับฟังได้ เพราะการจับกุมต้องมีหมายหรือคำสั่งจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ค. รับฟังไม่ได้ เพราะผู้เสียหายชี้ให้ทำการจับกุมได้
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
80. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2542 พันตำรวจโทยุทธศักดิ์ พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับนางสมศรีในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น และได้สืบสวนจนทราบว่านางสมศรีอยู่ในบ้านของตนซึ่งตามสำเนาทะเบียนบ้านปรากฏชื่อนายสมศักดิ์สามีของนางสมศรีเป็นเจ้าบ้าน พันตำรวจโทยุทธศักดิ์ จึงมอบหมายให้พันตำรวจตรีทรงวุธนำกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งไปขอค้นบ้านนายสมศักดิ์โดยไม่มีหมายค้น นายสมศักดิ์ไม่ยอมให้ค้น พันตำรวจตรีทรงวุธจึงแสดงหมายจับนางสมศรี และอ้างว่าตนเป็นพนักงานตำรวจชั้นผู้ใหญ่สามารถทำการค้นได้โดยไม่ต้องมีหมาย และขู่ว่าถ้านายสมศักดิ์ไม่ให้ความร่วมมือจะถูกดำเนินคดี นายสมศักดิ์จึงจำยอม และพันตำรวจตรีทรงวุธจึงจับกุมนางสมศรีได้ ให้วินิจฉัยว่าข้ออ้างของพันตำรวจตรีทรงวุธรับฟังได้หรือไม่
ก. ข้ออ้างของพันตำรวจตรีทรงวุธรับฟังได้ เพราะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ข. ข้ออ้างของพันตำรวจตรีทรงวุธรับฟังได้ เพราะเป็นการค้นโดยเหตุซึ่งหน้า
ค. ข้ออ้างของพันตำรวจตรีทรงวุธรับฟังไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจในการตรวจค้น
ง. ข้ออ้างของพันตำรวจตรีทรงวุธรับฟังไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ขอออกหมายจับ
สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
[font=arial ]ผลงานการสอบได้ของลูกค้า
ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com