ข้อสอบกฎหมายลักษณะพยาน
1. ในคดีแพ่ง ผู้ใดมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริง
ก. คู่ความฝ่ายที่กล่าวอ้างข้อเท็จจริง
ข. โจทก์
ค. จำเลย
ง. คู่ความ
2. ในคดีแพ่งคู่ความไม่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงใด
ก. ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไป
ข. ข้อเท็จจริงซึ่งไม่อาจโต้แย้งได้
ค. ข้อเท็จจริงซึ่งศาลเห็นว่าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งได้รับแล้ว
ง. ถูกทุกข้อ
3. คู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใด หรือคำเบิกความของพยานคนใด หรือมีความจำนงที่จะให้ศาลตรวจบุคคลวัตถุ สถานที่ หรืออ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้ง เพื่อเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตน ให้คู่ความฝ่ายนั้นยื่นต่อศาล
ก. ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าห้าวัน
ข. ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ค. ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสิบวัน
ง. ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
4. ถ้าคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงจะยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมให้ยื่นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลพร้อมกับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมและสำเนาบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวได้
ก. ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสิบวัน
ข. ภายในสิบวันนับแต่วันสืบพยาน
ค. ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันสืบพยาน
5. การอ้างเอกสารเป็นพยานนั้นให้ยอมรับฟังได้แต่
ก. ต้นฉบับเอกสารเท่านั้น
ข. สำเนาที่รับรองแล้วถูกต้อง
ค. สำเนาที่รับรองจากส่วนราชการ
ง. ถูกทุกข้อ
6. กรณีใด กฎหมายกำหนดให้ศาลยอมรับฟังสำเนาเอกสาร เป็นพยานหลักฐานแห่งเอกสารนั้นได้
ก. เมื่อคู่ความที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตกลงกันว่าสำเนาเอกสารนั้นถูกต้องแล้ว
ข. ถ้าต้นฉบับเอกสารหาไม่ได้ เพราะสูญหาย
ค. ถ้าต้นฉบับเอกสารถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่น
ง. ถูกทุกข้อ
7. กรณีใด ศาลจะอนุญาตให้นำพยานบุคคลมาสืบแทนพยานเอกสารก็ได้
ก. ถ้าต้นฉบับเอกสารหาไม่ได้ เพราะสูญหาย
ข. ถ้าต้นฉบับเอกสารถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัย
ค. ถ้าไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่น
ง. ถูกทุกข้อ
8. กรณีต้นฉบับเอกสารที่อยู่ในความอารักขาหรือในความควบคุมของทางราชการนั้น จะนำมาแสดงได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตของรัฐมนตรี หัวหน้ากรม กอง หัวหน้าแผนกหรือผู้รักษาการแทนในตำแหน่งนั้น ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี จะใช้พยานบุคคลแทนได้หรือไม่
ก. ไม่ได้ แต่อาจใช้สำเนาเอกสารซึ่งรัฐมนตรี หัวหน้ากรม กอง หัวหน้าแผนกหรือผู้รักษาการแทนในตำแหน่งนั้น ๆ ได้รับรองถูกต้องแล้ว
ข. ใช้ได้เฉพาะต้นฉบับเท่านั้น
ค. ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่ดูแลรักษาเอกสารนั้น
ง. ได้ แต่บุคคลที่ดูแลเอกสารนั้นต้องมาเบิกความยืนยัน
9. เจ้าพนัก
งานตำรวจจับนายเล็กได้พร้อมเฮโรอีนของกลางจำนวนหนึ่ง นายเล็กให้การรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่า ซื้อเฮโรอีนของกลางมาจากนายใหญ่ เจ้าพนักงานตำรวจจึงขอหมายจับตัวนายใหญ่มาดำเนินคดีด้วย นายใหญ่ให้การปฏิเสธ ต่อมาพนักงานอัยการยื่นฟ้องนายเล็กและนายใหญ่เป็นจำเลยในคดีเดียวกันโดยฟ้องนายเล็กฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองและฟ้องนายใหญ่ฐานจำหน่ายเฮโรอีนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบบันทึกคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของนายเล็กเป็นพยานหลักฐานต่อศาล ให้วินิจฉัยว่า ศาลจะรับฟังบันทึกคำให้การของนายเล็กเป็นพยานหลักฐานยันจำเลยทั้งสองได้หรือไม่(เนติ 56 )
ก. ได้ เพราะคำให้การของนายเล็กฯ ไม่ได้เกิดจากบังคับ จูงใจ และก็ไม่มีกฎหมายห้ามรับฟัง
ข. ได้ เพราะเป็นประจักษ์พยาน
ค. ไม่ได้ เพราะเป็นคำซัดทอดของผู้ต้องหา
ง. แล้วแต่ศาลเห็นสมควร เพื่อการยุติธรรม
10. พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ในชั้นพิจารณาโจทก์อ้างว่าไม่อาจนำเด็กหญิงแดงอายุ 14 ปี ผู้เสียหายมาเป็นพยานศาลได้เนื่องจากเด็กหญิงแดงย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ต่างประเทศไม่อาจติดต่อได้ จึงขออ้างส่งวิดีทัศน์การสอบปากคำเด็กหญิงแดงในชั้นสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนในสถานที่ที่จัดเฉพาะสำหรับเด็กซึ่งมีนักจิตวิทยา มารดาของเด็กหญิงแดงซึ่งเด็กหญิงแดงร้องขอ และพนักงานอัยการเข้าร่วมในการถามปากคำนั้นด้วยเป็นพยานหลักฐานแทน นอกจากนั้นโจทก์ยังได้นำสืบเด็กหญิงเขียว อายุ 13 ปี โดยศาลให้คู่ความถามพยานปากนี้ผ่านนางใจเย็นนักสังคมสงเคราะห์ ทั้งนี้ศาลไม่ได้ให้เด็กหญิงเขียวและนางใจเย็นปฏิญาณหรือสาบานตนก่อนเช่นนี้ หากจำเลยคัดค้านการนำสืบพยานหลักฐานของโจทก์ดังกล่าวว่าต้องห้ามมิให้รับฟังตามกฎหมาย ให้วินิจฉัยว่า ศาลจะรับฟังวิดีทัศน์คำให้การของเด็กหญิงแดงในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของเด็กหญิงเขียวได้หรือไม่ เพียงใด ( เนติ 56 )
ก. วิดีทัศน์คำให้การของเด็กหญิงแดงในชั้นสอบสวนรับฟังได้และคำเบิกความของเด็กหญิงเขียวรับฟังได้
ข. วิดีทัศน์คำให้การของเด็กหญิงแดงในชั้นสอบสวนรับฟังได้และคำเบิกความของเด็กหญิงเขียวรับฟังไม่ได้
ค. วิดีทัศน์คำให้การของเด็กหญิงแดงในชั้นสอบสวนรับฟังไม่ได้และคำเบิกความของเด็กหญิงเขียวรับฟังได้
ง. วิดีทัศน์คำให้การของเด็กหญิงแดงในชั้นสอบสวนรับฟังไม่ได้และคำเบิกความของเด็กหญิงเขียวรับฟังไม่ได้
11. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2548 นางเจนซึ่งเป็นชาวต่างชาติร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์เอากล้องถ่ายรูปและเงินดอลลาร์สหรัฐไป โดยมีนายขาวเป็นประจักษ์พยานยืนยันว่าคนร้ายคือนายดำ แต่นางเจนจะต้องเดินทางกลับประเทศตนโดยด่วน พนักงานสอบสวนจึงเสนอเรื่องต่อพนักงานอัยการขอให้ทำคำร้องต่อศาลขอสืบนางเจนเป็นพยานต่อศาลไว้ก่อนฟ้อง ทั้งที่ยังติดตามจับตัวนายดำไม่ได้ ดังนี้พนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอสืบนางเจนไว้ก่อนฟ้องได้หรือไม่ (เนติ 57 )
ก. ก็สามารถขอสืบนางเจนลับหลังนายดำได้ เพราะไม่มีพยานคนอื่นๆ ตามมาตรา 237 ทวิ
ข. ก็สามารถขอสืบนางเจนลับหลังนายดำได้ ถือเป็นกรณียกเว้นตามที่มาตรา 237 ทวิ
ค. ไม่สามารถขอสืบนางเจนลับหลังนายดำได้ เพราะตามมาตรา 237 ทวิ ต้องสืบต่อหน้าจำเลย
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
12. ตามข้อ 7. หากต่อมาหลังจากจับตัวนายดำมาฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแล้ว ปรากฏว่านายขาวประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสอาจถึงแก่ความตายก่อนวันนัดสืบพยาน พนักงานอัยการจะขอสืบนายขาวเป็นพยานไว้ล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดนัดสืบพยานได้หรือไม่ (เนติ 57 )
ก. ก็สามารถขอสืบนายขาวเป็นพยานไว้ล่วงหน้าได้ เถือเป็นกรณียกเว้นตามที่มาตรา 173/2 วรรคสองเพราะนายขาวเป็นประจักษ์พยานที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดี
ข. ก็สามารถขอสืบนายขาวเป็นพยานไว้ล่วงหน้าได้ ถือเป็นกรณียกเว้นตามที่มาตรา 173/2 วรรคสอง และมีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ค. ไม่สามารถขอสืบนายขาวเป็นพยานไว้ล่วงหน้าไม่ได้ เพราะขัดต่อมาตรา 237 ทวิ ซึ่งนายขาวไม่ใช่บุคคลตามที่กฎหมายระบุ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
13. เจ้าพนักงานตำรวจได้รับรายงานจากสายลับว่า นายหนึ่งมีพฤติกรรมเป็นผู้ค้ายาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน จึงได้ขอหมายค้นจากศาลและเมื่อศาลอนุมัติแล้ว ได้นำหมายค้นไปค้นบ้านนายหนึ่งปรากฏว่าพบเมทแอมเฟตามีน จำนวน 200 เม็ดอยู่ในตู้กับข้าวภายในบ้านของนายหนึ่ง เมื่อพบตัวนายหนึ่งเจ้าพนักงานผู้จับกุมจึงได้แจ้งให้ทราบถึงสิทธิต่าง ๆ ตามที่ผู้ถูกจับกุมพึงมีในชั้นจับกุมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 และมาตรา 84 ให้นายหนึ่งทราบ แล้วนายหนึ่งรับว่าเมทแอมเฟตามีนจำนวนดังกล่าวเป็นของตน และรับว่าตนเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดดังกล่าวจริง เจ้าพนักงานได้บันทึกคำให้การของนายหนึ่งดังกล่าวไว้ในบันทึกการจับกุมและยึดเมทแอมเฟตามีนไว้เป็นของกลาง ต่อมาพนักงานอัยการยื่นฟ้องนายหนึ่งในข้อหามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษ ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบถ้อยคำที่จำเลยรับสารภาพไว้ในบันทึกการจับกุมและเมทแอมเฟตามีนของกลางเป็นพยานหลักฐานต่อศาลให้วินิจฉัยว่า ศาลจะรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวที่พนักงานอัยการนำสืบต่อศาลได้หรือไม่เพียงใด
ก. คำรับสารภาพรับฟังไม่ได้ เมทแอมเฟตามีนของกลางรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ข. คำรับสารภาพ และ เมทแอมเฟตามีนของกลางรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ เพราะมีการแจ้งสิทธิแล้ว
ค. คำรับสารภาพ และเมทแอมเฟตามีนของกลางรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้
ง. คำรับสารภาพรับฟังได้ เมทแอมเฟตามีนของกลางรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้
14. ก่อนฟ้องคดีต่อศาล พนักงานอัยการได้นำนายเขียวมาศาลและยื่นคำร้องระบุว่านายเขียวเป็นผู้ต้องหาฐานวิ่งราวทรัพย์ของนายโอตะผู้เสียหาย ขอสืบพยานบุคคล ดังต่อไปนี้ไว้ก่อน
(ก) นายโอตะ ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นซึ่งจะรีบเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นยากแก่การนำมาสืบในภายหน้า
(ข) นายมดแดง ประจักษ์พยานคนไทยซึ่งป่วยเป็นโรคเอดส์ขั้นสุดท้ายใกล้ตาย ยากแก่การนำมาสืบ
ในภายหน้า
ศาลสอบผู้ต้องหาแล้วผู้ต้องหาไม่ต้องการทนาย จึงได้ดำเนินการสืบพยานไปโดยศาลไม่ได้ซักถามพยานปากนายโอตะ คงซักถามแต่พยานปากนายมดแดงแทนนายเขียว
ต่อมาพนักงานอัยการได้ฟ้องนายเขียวเป็นจำเลยฐานวิ่งราวทรัพย์ นายเขียวได้ยื่นคำร้องต่อศาลคัดค้านการที่ศาลจะรับฟังคำพยานปากนายโอตะและนายมดแดงที่มีการสืบไว้ก่อนดังกล่าว อ้างว่าการสืบพยานทั้งสองปากฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ท่านเห็นว่าคำคัดค้านของนายเขียวฟังขึ้นหรือไม่เพียงใด(เนติ 51 )
ก. คำคัดค้านของนายเขียวกรณีนายโอตะฟังไม่ขึ้น กรณีนายมดแดงไม่ฟังขึ้น
ข. คำคัดค้านของนายเขียวกรณีนายโอตะฟังขึ้น กรณีนายมดแดงฟังไม่ขึ้น
ค. คำคัดค้านของนายเขียวกรณีนายโอตะฟังขึ้น กรณีนายมดแดงฟังขึ้น
ง. คำคัดค้านของนายเขียวกรณีนายโอตะฟังไม่ขึ้น กรณีนายมดแดงฟังขึ้น
15. ร้อยตำรวจเอกลุยได้รับรายงานจากสายสืบว่านายร้ายมีพฤติการณ์ทำธนบัตรปลอมออกจำหน่าย จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายร้ายโดยไม่มีหมายค้นและพบธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท รวม 5 ฉบับ อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของนายร้าย ร้อยตำรวจเอกลุยบอกให้นายร้ายรับสารภาพ มิฉะนั้นจะดำเนินคดีแก่ภริยาของนายร้ายด้วย นายร้ายให้การรับสารภาพว่า ตนได้ทำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ปลอมขึ้นทั้งหมด 100 ฉบับ เก็บไว้เป็นตัวอย่างที่บ้าน 5 ฉบับ ส่วนอีก 95 ฉบับ นำไปซ่อนไว้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ร้อยตำรวจเอกลุยตามไปตรวจค้นที่ห้องเช่าแห่งนั้น พบธนบัตรปลอมอีก 95 ฉบับ ตามที่นายร้ายบอก จึงยึดธนบัตรปลอมทั้งหมดเป็นของกลางและจับกุมนายร้ายส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีฐานปลอมเงินตรา ในชั้นสอบสวนนายร้ายกลับให้การปฏิเสธความผิดทั้งหมด ต่อมาพนักงานอัยการฟ้องนายร้ายเป็นจำเลยในข้อหาปลอมเงินตรา และนำสืบร้อยตำรวจเอกลุยให้เบิกความถึงคำรับสารภาพของนายร้ายในชั้นจับกุม รวมทั้งนำสืบธนบัตรปลอมทั้งส่วนที่ค้นได้ที่บ้านพักของนายร้ายและส่วนที่ค้นได้ที่ห้องเช่าอีก 95 ฉบับเป็นวัตถุพยานด้วย ให้วินิจฉัยว่า ศาลจะรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวได้หรือไม่(เนติ 50 )
ก. คำรับสารภาพของนายร้ายในชั้นจับกุมรับฟังไม่ได้ เพราะเกิดจากการขู่เข็ญ
ข. คำรับสารภาพของนายร้ายในชั้นจับกุมรับฟังไม่ได้ เพราะขัดต่อ ป.วิ.อาญา มาตรา 84 วรรรค 4
ค. คำรับสารภาพของนายร้ายในชั้นจับกุมรับฟังได้
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ข.
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบสำนักงานอัยการสูงสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ
สนใจสั่งซื้อมาที่ decho.by@hotmail.com
รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก
สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
[font=arial ]ผลงานการสอบได้ของลูกค้า
ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com