๑๑. กำลังสำรองหมายถึงกำลังที่ไม่ใช่กำลังประจำการที่เตรียมไว้ในยามสงครามมีอะไรบ้าง 

ก. กำลังกึ่งทหาร  ข. กลุ่มพลังมวลชนที่ได้จัดตั้งแล้ว

 ค. กลุ่มพลังมวลชนอื่น ๆ  ง. ถูกทุกข้อ red;">

๑๒. ข้อใดเป็นกลุ่มพลังมวลชนที่ได้มีการจัดตั้งแล้ว โดยมีกฎหมายรองรับ

 ก. กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน (ลส.ชบ.)  ข. กลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติ (ทส.ปช.) 

ค. หน่วยอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.)  ง. ทหารกองเกิน 

๑๓. ข้อใดเป็นกำลังพลสำรอง

 ก. กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน (ลส.ชบ.)  ข. กลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติ (ทส.ปช.) 

ค. หน่วยอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.)  ง. ทหารกองเกิน 

๑๔. กำลังพลสำรองหลักประเภท นายทหารสัญญาบัตร และนายทหารประทวนได้มาจากไหน 

 ก. พลทหารที่รับราชการครบกำหนดแล้วปลดเป็นทหารกองหนุน

 ข. นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) 

 ค. หน่วยกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน

 ง. กลุ่มกองหนุนเพื่อความมั่นคงของชาติ 

๑๕. ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒ หมายถึงใคร 

 ก. ทหารกองประจำการที่ต้องโทษจำคุกรวมกันเกินกว่า ๑ ปีขึ้นไป 

ข. ทหารกองประจำการที่กระทำให้เสื่อมเสียแก่ทางราชการและถูกปลด

  ค. ทหารกองเกินที่ไม่ถูกคัดเลือกเข้าเป็นทหาร (จับสลากไม่ได้ใบแดง)  

ง. ถูกทุกข้อ 

๑๖. กองทัพบกได้กำหนดโครงสร้างจัดแบ่งกำลังรบเป็น ๓ ประเภทตามยุทธศาสตร์เบ็ดเสร็จได้แก่กำลังรบ

 ใดบ้าง

 ก. กำลังรบหลัก  ข. กำลังรบประจำถิ่น

 ค. กำลังประชาชน  ง. ถูกทุกข้อ

๑๗. ความมุ่งหมายในการฝึกวิชาทหารของ นศท. มีอย่างไร 

 ก. ให้มีคุณลักษณะเป็นผู้นำ 

 ข.ให้เป็นผู้มีวินัย

 ค. เชื่อมั่นในตนเอง และให้ดำรงตนเป็นพลเมืองดี 

 ง. ถูกทุกข้อ

๑๘. การปฏิบัติตัวของ นศท. ระหว่างเข้ารับการฝึกวิชาทหารในการแต่งกาย นศท. ต้องปฎิบัติอย่างไร

 ก. เครื่องแบบต้องถูกต้องตามระเบียบ  ข.เครื่องแบบต้องสะอาดเรียบร้อยตลอดเวลา

 ค. ผมต้องตัดสั้นตามที่หน่วยฝึกกำหนด  ง. ถูกทุกข้อ

๑๙. การเข้ารับการฝึกสอน นศท. ต้องกระทำตามเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถเข้ารับการสอนได้ด้วยเหตุใด  

 ก็ตาม นศท. ผู้นั้นต้องรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อผู้ใด ก่อนถึงวันเข้ารับการฝึกสอนไม่น้อยกว่า ๑ วัน

 ก. ผู้บังคับบัญชาที่หน่วยฝึก  ข. ผู้กำกับ นศท. ณ  สถานศึกษาที่ตนศึกษาอยู่

 ค. ครูฝึก  ณ  สถานศึกษาที่ตนศึกษาอยู่  ง. ไม่มีข้อใดถูก

๒๐. จากข้อ ๑๙ หากไม่สามารถรายงานก่อนเข้ารับการฝึกสอนได้ ให้กระทำอย่างไร 

 ก. รายงานเมื่อมาเข้ารับการเรียนการสอน  ข. รายงานภายหลังไม่เกิน ๑ วัน 

 ค. รายงานภายหลังไม่เกิน ๓ วัน  ง. ไม่มีข้อใดถูก

๒๑. ข่าวกรองทางทหาร หมายถึงอะไร

ก. การรวบรวม จัดระเบียบวิเคราะห์ ประเมินค่าเกี่ยวกับ ข้าศึก

ข. ข่าวกรองทางการขนส่ง และโทรคมนาคม 

ค. ข่าวกรองภูมิศาสตร์ทางทหาร

ง. ข่าวกรองทางสังคมจิตวิทยา และปัจจัยประชาชน

๒๒. มาตรการต่อต้านข่าวกรองมีกี่ประเภท 

 ก. ๑ ประเภท  ข. ๒ ประเภท

 ค. ๓ ประเภท  ง. ๔ ประเภท

๒๓. หลักการรายงานประกอบด้วยข้อใด 

ก. รวดเร็ว, ถูกต้อง, สมบูรณ์  ข. ความแน่นอน,ถูกต้อง

ค. การรายงานด้วยวาจา,โทรศัพท์  ง. รวดเร็ว, เชื่อถือได้

๒๔. ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการแสวงหาข่าวสารทหารคือข้อใด

 ก. ทหารเหล่าข่าวเท่านั้น  ข. ทหารทุกคน

 ค. เฉพาะเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง  ง. ผู้บังคับบัญชา

๒๕. ผู้รับผิดชอบการต่อต้านข่าวกรองคือใคร

 ก. ฝอ.๑  ข. ฝอ.๒

 ค. ฝอ.๓  ง. ฝอ.๔

๒๖. วิธีการรายงานข่าวสามารถกระทำได้อย่างไร 

 ก. รายงานด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษร  ข. รายงานโดยการเขียนข่าว ภาพสังเขป

ค. รายงานข่าวทางโทรศัพท์และวิทยุ  ง. ถูกทุกข้อ

๒๗. การรายงานข่าวเกี่ยวกับข้าศึกจะต้องครอบคลุมรายละเอียดในเรื่องใด 

 ก. ขนาด, การปฏิบัติ  ข. ที่ตั้ง, หน่วย 

 ค. เวลา, ยุทโธปกรณ์  ง.  ถูกทุกข้อ

๒๘. ข้อใดเป็นพื้นที่ในการปฏิบัติการข่าวกรอง

  ก. พื้นที่อิทธิพล   ข. พื้นที่เขตสีแดง

  ค. พื้นที่ที่ต้องสนใจ  ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ค.

๒๙. ข้อมูลที่ทหารใช้ในการตกลงใจทางยุทธวิธีคืออะไร

 ก. ข้อมูลทางยุทธศาสตร์  ข. ข้าศึก, ลมฟ้าอากาศและภูมิประเทศ

 ค. OCOKA  ง. ถูกทั้ง ข. และ ค.

๓๐. ต้นกำเนิดของข่าวสารคืออะไร

 ก. บุคคล, สิ่งของ ข้าศึก  ข. ลมฟ้าอากาศ

 ค. แหล่งข่าวสาร  ง. OCOKA