1.ปัญญาที่เกิดขึ้นจากการพิจารณา คือปัญญาประเภทใด
ก. ปัญญาแท้ ข. สตุมยปัญญา
ค. จินตามยปัญญา ง.ภาวนามยปัญญา
ตอบ ค. จินตามยปัญญา คือ ปัญญาที่เกิดขึ้นจากการคิด พิจารณา ไตร่ตรอง หาเหตุผล
2. ข้อใดเป็น “ ปัญญาสิกขา ” ตามหลักพระพุทธศาสนา
ก. ลูกคิดหาวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายของตน ข. พ่อแม่ นั่งสมาธิทุกวันก่อนนอน
ค. ฆราวาส กำลังท่องศีล 5 ง. นักกีฬาคิดหาวิธีที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้
ตอบ ก. ปัญญาสิกขา คือ การศึกษาในเรื่องปัญญา คนที่มีปัญญาจะมีความรู้ ความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ตามสภาพที่เป็นจริง ทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ดังนั้น ตามปัญญา ลูกคิดหาวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายของตน จึงเป็นปัญญาสิกขาตามหลักพระพุทธศาสนา
3. ปัญญาที่ได้จากการฟังคำบรรยายและอ่านตำรา เรียกว่า
ก. ปัญญาแท้ ข. สตุมยปัญญา
ค. จินตามยปัญญา ง.ภาวนามยปัญญา
ตอบ ข. สตุมยปัญญา คือ ปัญญาหรือความรู้ที่เกิดจากการฟังและการอ่าน
4. ปัญญาที่เกิดจากการลงมือปฏิบัติ คือ
ก. ปัญญาแท้ ข. สตุมยปัญญา
ค. จินตามยปัญญา ง.ภาวนามยปัญญา
ตอบ ง.ภาวนามยปัญญา คือ ปัญญาหรือความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติ
5. ในขณะที่ประเทศปากีสถาน ได้ประสบปัญหาแผ่นดินไหว จนเป็นเหตุตึกถล่มทับผู้คนจำนวนมาก และได้มีประเทศต่างๆให้ความช่วยเหลือ ประเทศที่ให้ความช่วยเหลือ ถือว่ายึดถือหลักธรรมตามข้อใด
ก. อิทธิบาท 4 ข. สังคหวัตถุ 4
ค. ธรรม 4 ง. อคติ 4
ตอบ ข. สังคหวัตถุ 4 คือ เป็นหลักธรรมเพื่อการสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นหลักธรรมที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคน ประกอบด้วย 1. ทาน 2. ปิยวาจา 3. อัตถจริยา 4. สมานัตตา
6. หลักธรรมตามข้อใดที่ช่วยปลูกฝังให้พลตำรวจเป็นคนมีระเบียบวินัย
ก. อิทธิบาท 4 ข. สติ ทมะ ขันติ
ค. ศีล ศรัทธา จาคะ ง. อริยสัจ 4
ตอบ ข. หลักธรรมที่ช่วยปลูกฝังให้พลตำรวจเป็นคนมีระเบียบวินัย คือ สติ หมายถึงความระลึกได้ ทมะ คือ การฝึกฝนการข่มใจ ฝึกวินัย ปรับตัว รู้จักควบคุมจิตใจ ขันติ คือ ความอดทน
7. นายแสวงได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นพลตำรวจใหม่และให้ไปปฏิบัติหน้าที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง นายแสวงต้องการที่จะมีเพื่อนที่จริงใจ นายแสวงต้องใช้หลักธรรมใด
ก. อิทธิบาท 4 ข. สังคหวัตถุ 4
ค. อริยสัจ 4 ง. กาลามสูตร
ตอบ ข. สังคหวัตถุ 4 คือ เป็นหลักธรรมที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคน ประกอบด้วย คือการให้เป็นคนเอื้อเฟื้อ 2. ปิยวาจา คือ การกล่าวคำสุภาพ 3. อัตถจริยา คือ การประพฤติสมาบัต คือการทำตนเสมอต้นเสมอปลาย
8. ผู้ที่พยายามเลิกสูบบุหรี่ เลิกกินเหล้า และทำให้สำเร็จ ถือว่ามีอริยมรรคข้อใด
ก. สัมมาอาชีวะ ( การเลี้ยงชีพชอบ ) ข. สัมมากัมมันตะ ( การกระทำ)
ค. สัมมาวายามะ ( ความเพียรพยายาม) ง. สัมมาทิฐิ ( ความเห็นชอบ )
ตอบ ค. สัมมาวายามะ ( ความเพียรพยายาม) คือ มีความเพียรพยายามที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามและชอบธรรม
9. บุคคลใดได้ชื่อว่า “ สัมมาทิฐิ ” หรือความเห็นชอบในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ก. เชื่อว่าการศึกษาเป็นบันไดนำไปสู่ความสำเร็จ
ข. คิดจะเลิกเที่ยวกลางคืนและไม่เล่นการพนัน
ค. เปิดร้านขายอาหารกลางคืนด้วยความขยันอดทน
ง. งดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา
ตอบ ก. สัมมาทิฐิ ( ความเห็นชอบ ) มีความเห็นที่ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรม เช่น ในเรื่องบาป บุญว่ามีจริง เชื่อว่าการศึกษาเป็นบันไดนำไปสู่ความสำเร็จ
10. สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เรียกว่าอย่างไร
ก. อริยะสัจ 4 ข. การดับกิเลสกองทุกข์โดยสิ้นเชิง
ค. โอวาทปาฏิโมกข์ ง. มรรคมีองค์แปด
ตอบ ก. สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ต่อมาได้เรียบเรียงเป็นขั้นตอน เรียกว่าอริยสัจ 4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค แสดงถึงกระบวนการเกิดทุกข์ และวิธีการดับทุกข์ของมนุษย์ เมื่อตรัสรู้แล้วทรงเรียกพระองค์ว่าสัมมาสัมพุทธะ แปลว่า ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
11. เมื่อตรัสรู้แล้ว ทรงเรียกพระองค์ว่า “ สัมมาสัมพุทธ ” หมายความว่าอย่างไร
ก. ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ข. ผู้ปฏิบัติทางสายกลาง
ค. ผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ ง. ผู้นำเวไนยสัตว์ ให้พ้นจากกองทุกข์
ตอบ ค. สัมมาสัมพุทธ แปลว่า ผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
12. ผู้ขับขี่รถยนต์ตามท้องถนนหลวง ต้องมีสติรู้ตัวตื่นอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใจลอย เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ ถือว่ามี “ อริยมรรค ” ข้อใด
ก. สัมมากัมมันตะ ( การกระทำชอบ ) ข. สัมมาสังกัปปะ ( ความดำริชอบ)
ค. สัมมาสมาธิ ( ความตั้งใจมั่นชอบ) ง. สัมมาสติ ( ความระลึกชอบ)
ตอบ ง. สัมมาสติ ( ความระลึกชอบ) หมายถึง สติรู้ตัวตื่นอยู่เสมอ เช่นรู้ว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ กำลังพูดอะไร กำลังคิดอะไร ทำให้สามารถควบคุมตนเองได้
13. ก่อนจะเสด็จออกผนวช มีเทวทูตทั้ง 4 มาปรากฏภายให้พระสิทธัตถะได้เห็นความจริงของชีวิต คือข้อใด
ก. คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ ข. เด็กทารก หนุ่มสาว วัยกลางคน และคนชรา
ค. คนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนตาย ง. พราหมณ์ กษัตริย์ แพทศย์ และศูทร
ตอบ ก. เทวทูตทั้ง 4 ซึ่งได้แก่ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ เป็นสาเหตุที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงเสด็จออกผนวช เนื่องจากทรงได้เห็นว่าเป็นความจริงแห่งชีวิตของมนุษย์และต้องการที่จะหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้
14. ชาวพุทธที่รู้ดีว่าการดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน และเล่นการพนัน เป็นสาเหตุแห่งความหายนะ ถือว่าเป็นผู้มีปัญญาประเภทใด
ก. ปัญญารู้จักเหตุและโทษของความเสื่อม ( อปายโกศล )
ข. ปัญญารู้จักเหตุและประโยชน์ของความเจริญ ( อายโกศล)
ค. ปัญญารู้จักเหตุและอายความเสื่อมและรู้วิธีสร้างความเจริญ ( อุปายโกศล)
ง. ปัญญาที่เกิดจากการฝึกอบรมสมาธิภาวนา ( ภาวนามยปัญญา)
ตอบ ก. ปัญญารู้จักเหตุแห่งความเสื่อม ( อปายโกศล ) คือรู้ว่าสิ่งใดเป็นความเสื่อม มีสาเหตุเกิดจากอะไร