นายร้อยตำรวจ เรื่อง รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก (หญิง) เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี 2555
ด้วยโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะดำเนินการสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก (หญิง) เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2555 จึงประกาศรับ
- สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า
รับจากบุคคลทั่วไป เพศหญิง จำนวน 60 คน โดยผู้สมัครต้องมีพื้นความรู้และคุณสมบัติ ดังนี้
1.สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า
2. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และบิดา มารดา ผู้ให้กำเนิดมีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรหรือชั้นประทวน หรือเป็นข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดก็ได้
3.เป็นหญิงโสด ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศ หรือติดต่อได้เสียกับชายถึงขั้นพอที่จะถือได้ว่าเป็นผู้มีสามี
4.มีขนาดร่างกายสูงไม่น้อยกว่า 160 เซนติเมตร
5.มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 21 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร
6.ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
7.ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกฟ้องหรือต้องหา หรือตกเป็นจำเลยในคดีอาญา หรือเคยต้องคำพิพากษาของศาลว่า ได้กระทำผิดในคดีอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
8.ไม่เป็นผู้เคยถูกถอนทะเบียน หรือพ้นจากความเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ด้วยเหตุที่ตกคะแนนความประพฤติ ที่ระบุไว้ในประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ประเภทบุคคล ลักษณะที่ 11 บทที่ 5 ข้อ 62.3 หรือ 62.4 หรือไม่เคยถูกให้ออกจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาอื่นใด เพราะเหตุประพฤติชั่ว เพราะกระทำความผิดหรือผิดวินัยหรือมีความประพฤติไม่เรียบร้อย
9.ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงและที่กำหนดไว้ในผนวก ก.
10.ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ หรือกฎหมายอื่น
11.ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากองค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
12.ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบคัดเลือกหรือสอบแข่งขันใด ๆ
13.เป็นผู้เลื่อมในในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญโดยความบริสุทธิ์ใจ
14.ไม่เป็นนักบวชในศาสนาใด ๆ
15.ไม่เป็นผู้ที่ลาออกจากราชการตำรวจ ยังไม่ถึง 1 ปี หรือผู้ที่ทางราชการไม่รับสมัครต่อจากวันครบกำหนดปลดกองหนุนหรือผู้ที่ถูก ให้ออกจากราชการฐานหย่อนความสามารถ เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมในการทดลองปฏิบัติราชการ
16.เป็นผู้ที่ทางราชการสืบสวนแล้วว่าเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี
17. ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
18.ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
หลักฐานที่ใช้ในวันสมัคร
ผู้สมัครต้องเตรียมไฟล์รูปถ่ายครึ่งตัว หน้าตรง ไม่สวมหมวก แต่งกายชุดนักเรียน หรือชุดนักศึกษา ถ่ายไว้ไม่เกิน 3 เดือน ขนาด 50 Kb.ประเภทของไฟล์เป็น JPG หรือ .GIF เพื่อใช้ประกอบการสมัคร หากรูปถ่ายไม่ถูกต้อง อาจส่งผลต่อการตรวจสอบตัวบุคคลในการเข้าสอบ กรรมการคุมสอบอาจไม่อนุญาตให้เข้าสอบ จะถือเป็นความบกพร่องของผู้สมัครเอง จะอ้างว่าระบบได้รับสมัครไว้แล้วไม่ได้ (ผู้สมัครต้องเตรียมสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่มีข้อมูลของตนเอง บิดาและมารดา เพื่อใช้ประกอบการกรอกใบสมัคร)
การสอบคัดเลือก การสอบคัดเลือกกระทำเป็นสองรอบ ดังนี้
1.การสอบรอบแรก เป็นการสอบข้อเขียน วิชาที่สอบ ได้แก่ วิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการ มีรายละเอียด ดังนี้
◦วิชาภาษาไทย คะแนนเต็ม 200 คะแนน
◦วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม 200 คะแนน
◦วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม 200 คะแนน -
◦วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 200 คะแนน
2.การสอบรอบสอง เป็นการตรวจร่างกาย ตรวจสอบประวัติ การทดสอบบุคลิกภาพ (เมื่อได้รับการอนุมัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) สอบพลศึกษา วัดขนาดร่างกายและสอบสัมภาษณ์ เป็นการสอบไม่มีคะแนน ถือเกณฑ์ ได้ หรือ ตก มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
การตรวจร่างกายและตรวจสอบประวัติ
เป็นการตรวจสุขภาพและตรวจโรค ซึ่งต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการทั่วไปและวิธีสมัครเข้าเป็นนักเรียน นายร้อยตำรวจ ผู้สมัครจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร ตามวัน เวลาที่กำหนด ผู้ไม่ไปรับการตรวจร่างกายถือว่าสละสิทธิ
ผลการตรวจร่างกาย ถือเป็นความเห็นของคณะกรรมการแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้ง ถือเป็นเด็ดขาด เฉพาะในวันตรวจร่างกายที่กำหนดไว้เท่านั้น และจะไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายที่ผู้สมัครได้รับการตรวจในวันอื่นหรือ ผู้สมัครขอตรวจซ้ำเอง ยกเว้นคณะแพทย์มีความเห็นให้ตรวจเพิ่มเติมเท่านั้น หรือได้ใบรับรองผลการตรวจโรคจากที่อื่นมาแสดง
การสอบพลศึกษาเป็นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย 2 ประเภท คือ
1.วิ่ง ระยะทาง 1,000 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 7 นาที จากจุดเริ่มต้น จนถึงเส้นชัย ถ้าวิ่งไม่ถึง หรือออกนอกลู่วิ่งก่อนครบกำหนดระยะทาง หรือทำเวลาเกินกว่ากำหนด ถือว่าสอบพลศึกษาตก
2.ว่ายน้ำ ระยะทาง 50 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที จากจุดเริ่มต้นจนถึง ผู้สอบใช้มือหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแตะขอบสระ ซึ่งเป็นเส้นชัย ผู้ที่ว่ายไม่ถึง หรือทำเวลา เกินกว่าที่กำหนด ถือว่าสอบพลศึกษาตก
ผู้สมัครจะต้องสอบพลศึกษาตาม (1) และ (2) ทั้งสองอย่างให้ผ่าน จึงจะถือว่าสอบพลศึกษาได้ ผู้ที่สอบพลศึกษาตกจะไม่รับเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ โดยไม่คำนึงถึงคะแนนข้อเขียนที่สอบได้
รายละเอียดทั้งหมด
http://www.rpca.ac.th/docs/001.pdfเว็บไซต์หลัก
[url]www.rpca-admission.com[/url]