size="2">พระราชบัญญัติ
จัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต
พ.ศ. ๒๕๒๗
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๗
เป็นปีที่ ๓๙ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิก(๑) พระราชกำหนดจัดสรรเงินภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งทำในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๒(๒) พระราชกำหนดจัดสรรเงินภาษีซีเมนต์ซึ่งทำในพระราชอาณาเขต พ.ศ.๒๕๒๔ มาตรา ๔ ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา แต่ไม่เกินร้อยละสิบของภาษีภาษีสรรพสามิตที่จะต้องเสียเพิ่มขึ้นตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้งมาตรา ๕ ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต ส่งมอบเงินภาษีที่เก็บเพิ่มขึ้นตามมาตรา ๔ ให้แก่กระทรวงมหาดไทยโดยหักค่าใช้จ่ายไว้ร้อยละห้าของเงินภาษีที่เก็บได้ มาตรา ๖ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดสรรเงินที่ได้รับตามมาตรา ๕ ให้แก่กรุงเทพมหานครและราชการส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง และให้มีอำนาจวางระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้กรุงเทพมหานครและราชการส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้รับเงินค่าภาษีสรรพสามิตที่เก็บเพิ่มขึ้น มาตรา ๗ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดสรรเงินภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันตามกฎหมายว่าด้วยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งทำในราชอาณาจักร ที่เก็บเพิ่มขึ้นตามพระราชกำหนดจัดสรรเงินภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งทำในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๒๒ และเงินภาษีซีเมนต์ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีซีเมนต์ซึ่งทำในพระราชอาณาเขต ที่เก็บเพิ่มขึ้นตามพระราชกำหนดจัดสรรเงินภาษีซีเมนต์ซึ่งทำในพระราชอาณาเขต พ.ศ.๒๕๒๔ และยังไม่ได้จัดสรรให้แก่กรุงเทพมหานครและราชการส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา ๖ ด้วย มาตรา ๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ป. ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยภาษีซีเมนต์ซึ่งทำในพระราชอาณาเขต กฎหมายว่าด้วยการเก็บภาษีเครื่องขีดไฟซึ่งทำในพระราชอาณาเขต กฎหมายว่าด้วยยานัตถุ์กฎหมายว่าด้วยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งทำในราชอาณาจักร กฎหมายว่าด้วยภาษีไม้ขีดไฟซึ่งทำในราชอาณาจักร และกฎหมายว่าด้วยภาษีเครื่องดื่ม ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.๒๕๒๗ ซึ่งมีหลักการยกเว้นภาษีการค้าให้แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้าซึ่งสินค้าดังกล่าวด้วย เป็นเหตุให้รายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นที่ได้รับจากภาษีซึ่งผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องเสียเพิ่มขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุราและภาษีเครื่องดื่ม ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งทำในราชอาณาจักร และตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีซีเมนต์ซึ่งทำในพระราชอาณาเขต หรือจากภาษีการค้าตามกฎหมายว่าด้วยรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าตามที่ระบุไว้ในกฎหมายดังกล่าวต้องหมดไป สมควรจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิตให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นเป็นการทดแทน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
[url=javascript:history.back(1)]« Back[/url]