กฎ ก.ตร.
ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ.2551
1. ใช้เป็นกรอบแห่งการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจให้มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
2. ในการพิจารณาสรรหา กลั่นกรอง แต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือน การลงโทษ ทุกระดับหน่วยงานตำรวจ ควรคำนึงถึงพฤติกรรม การปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของบุคคล
3. กองบัญชาการศึกษาเป็นศูนย์ส่งเสริมจริยธรรม มีหน้าที่กำหนดตัวชี้วัดและหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อประกาศเชิดชูเกียรติหน่วยงานและข้าราชการตำรวจ
ประกาศเชิดชูเกียรติฯ ให้กองบัญชาการศึกษาเสนอขอความเห็นชอบตามลำดับชั้น และต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร. ด้วย
4. ให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศเชิดชูเกียรติฯ ของตำรวจประจำทุกปี
สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการ ต้องประกาศเชิดชูเกียรติฯ ตำรวจในสังกัด เหมือน สตช.
5. สถาบันฝึกอบรมของ สตช. นำประมวลจริยธรรมฯ ไปกำหนดเป็นหลักสูตรการเรียนการสอน
6. จเรตำรวจแห่งชาติมีอำนาจและหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมฯ และสอดส่องดูแลการรักษาประมวลจริยธรรมฯ ในภาพรวมระดับ สตช.
หากพบหน่วยงานตำรวจละเมิด ฝ่าฝืนฯ โดยพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเกิดผลกระทบในทางเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของ สตช. หรือวิชาชีพตำรวจ ให้จเรฯ รายงาน ผบ.ตร. และแจ้งผู้บังคับบัญชาระดับ บช. สอบข้อเท็จจริง
ให้จเรฯ จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมฯ
7. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีอำนาจและหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมฯ อย่างเคร่งครัด หากพบมีการละเมิด ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามและไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาจงใจละเมิด ฝ่าฝืน
8. กรณีพบว่าผู้บังคับบัญชาของตน ข้าราชการตำรวจ หรือหน่วยงานใดละเมิด ฝ่าฝืน ฯ สามารถรายงานต่อผู้บังคับบัญชาเหนือหน่วยงานที่ตนสังกัดได้อย่างน้อย 3 ลำดับชั้น และหากผู้บังคับบัญชาที่ตนรายงานไม่ดำเนินการ สามารถรายงานถึงจเรฯ หรือ ผบ.ตร.ได้ ไม่ถือว่าเป็นการกระทำข้ามผู้บังคับบัญชา
8. จเรฯ มีหน้าที่เสนอความเห็นต่อ ก.ตร. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมปรับปรุงประมวลจริยธรรมฯ ให้เหมาะสมกับกาลเวลาสถานการณ์
ข้าราชการตำรวจทุกระดับมีสิทธิและเสรีภาพที่จะเสนอปัญหาและอุปสรรค ฯ ในการแก้ไขปรับปรุงประมวลจริยธรรมฯ
ประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณตำรวจ พ.ศ.2551
1. ประมวลจริยธรรมฯ ประกอบด้วย
1.1 คุณธรรม ค่านิยมหลัก และอุดมคติตำรวจ เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งให้ ตร. อยู่ในกรอบศีลธรรมและคุณธรรม เป็นแนวทางชี้นำให้ ตร. บรรลุถึงปณิธานของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
1.2 จริยธรรมของตำรวจ คือ คุณความดีที่เป็นข้อปฏิบัติตนและปฏิบัติหน้าที่ของ ตร. เพื่อให้ประชาชนศรัทธา เชื่อมั่นและยอมรับ
1.3 จรรยาบรรณของตำรวจ คือ ประมวลความประพฤติในการปฏิบัติหน้าที่ของ ตร. ที่ต้องยึดถือปฏิบัติ เพื่อธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของ ตร. และวิชาชีพตำรวจ
2. การไม่เลือกปฏิบัติ หมายความว่า การไม่ใช้ความรู้สึกพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจส่วนตัวต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
ประโยชน์ หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน บริการ ตำแหน่งหน้าที่การงาน สิทธิประโยชน์ หรือประโยชน์อื่นใด
การทารุณหรือการทารุณกรรม หมายความว่า การปฏิบัติหรือกระทำใดๆ ต่อร่างกายหรือจิตใจของบุคคล ในลักษณะโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
คุณธรรม ค่านิยมหลัก และอุดมคติของตำรวจ
1. ตร. ต้องยึดถือคุณธรรมสี่ประการตามพระบรมราโชวาท เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งในการประพฤติตนและปฏิบัติหน้าที่
1.1 การรักษาความสัจ 1.2 การรู้จักข่มใจตนเอง 1.3 การอดทน อดกลั้น และอดออม
1.4 การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต
2. ตร. ต้องปฏิบัติตามค่านิยมหลัก ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินกำหนด 9 ประการ ดังนี้
2.1 การยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม 2.2 การมีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต
2.3 การยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน 2.4 การยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง
2.5 การให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็ว 2.6 การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน
2.7 การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน 2.8 การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยฯ
2.9 การยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพ
3. อุดมคติตำรวจ 9 ประการ เป็นแนวทางชี้นำเพื่อบรรลุถึงปณิธานของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
3.1 เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ 3.2 กรุณาปราณีต่อประชาชน 3.3 อดทนต่อความเจ็บใจ
3.4 ไม่หวั่นไหวต่อความอยากลำบาก 3.5 ไม่มักมากในลาภผล 3.6 มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
3.7 ดำรงตนในยุติธรรม 3.8 กระทำการด้วยปัญญา 3.9 รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต
จริยธรรมของตำรวจ
1. ต้องเคารพ ศรัทธา และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ
1.1 จงรักภักดีและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ 1.2 สนับสนุนการเมืองประชาธิปไตยด้วยศรัทธา
2. ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน
3. ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพปริสิทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุด
3.1 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว 3.2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ
3.3 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ 3.4 ดูแลรักษาและใช้ทรัพย์สินของทางราชการอย่างประหยัดคุ้มค่า
3.5 รักษาความลับทางราชการ (เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรม หรือการตรวจสอบตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ กำหนด )
4. ต้องมีจิตสำนึกเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
4.1 มีท่าทีเป็นมิตร มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี 4.2 ปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือของประชาชน ไม่แสดงกริยาท่าทางไม่สุภาพ
4.3 เอื้อเฟื้อ สงเคราะห์และช่วยเหลือประชาชน 4.4 ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
5. ต้องศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาตนเอง ให้ทันโลกทันเหตุการณ์
6. ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตและยึดมั่นในศีลธรรม
6.1 ไม่ใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น
6.2 ไม่ใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ ไปในทางจูงใจหรือมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ
6.3 ไม่รับของขวัญนอกเหนือจากโอกาสและกาลตามประเพณีนิยม
6.4 ไม่ใช้เวลาราชการหรือทรัพย์สินของทางราชการเพื่อธุรกิจหรือประโยชน์ส่วนตัว
6.5 ไม่ประกอบอาชีพเสริมซึ่งมีลักษณะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน
6.6 ดำรงชีวิตส่วนตัวไม่ให้เกิดมลทินมัวหมองต่อตำแหน่งหน้าที่
7. ต้องภาคภูมิใจในวิชาชีพ
7.1 ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา 7.2 ไม่สั่งผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ชอบฯ
7.3 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าไม่ชอบ 7.4 ไม่เลี่ยงกฎหมาย ใช้หรือแนะนำให้ใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย
8. ผู้บังคับบัญชา
8.1 ประพฤติปฏิบัติเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างที่ดี 8.2 หมั่นอบรมให้ผู้ใต้บังคับบัญชายึดถือปฏิบัติตามประมวลฯนี้
8.3 ปกครองบังคับบัญชาด้วยหลักการและเหตุผลที่ถูกต้อง 8.4 ใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานบุคคล
9. ผู้ใต้บังคับบัญชา
9.1 เคารพเอื้อเฟื้อและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา 9.2 รักษาวินัยและความสามัคคีในหมู่คณะ
9.3 ปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานด้วยความสุภาพมีน้ำใจ
9.4 อุทิศตนเองไม่หลีกเลี่ยงหรือเกี่ยงงาน
จรรยาบรรณของตำรวจ
1. ต้องสำนึกในการให้บริการประชาชนด้านการอำนวยความยุติธรรม
1.1 อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการร้องทุกข์ ไม่เลือกปฏิบัติ
1.2 สุภาพ อ่อนน้อม และให้เกียรติประชาชนเพื่อให้เกิดความน่าเคารพยำเกรง
1.3 ในเครื่องแบบ , นอกเครื่องแบบ ต้องดำรงตนให้อยู่ในสภาพที่พร้อมและเหมาะสมแก่การปฏิบัติหน้าที่
1.4 พกพาอาวุธตามระเบียบแบบแผน 1.5 พกพาเอกสารหรือบัตรประจำตัว
2. ในเข้าจับกุมการกระทำผิด ต้องยึดถือและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
2.1 แสดงถึงการอุทิศตนและจิใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ
2.2 ยืนหยัดเจตนารมณ์ในการรักษากฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่ประนีประนอม
2.3 ไม่ใช้มาตรการรุนแรง เว้นแต่การใช้มาตรการปกติแล้วไม่เพียงพอ
3. ต้องตระหนักว่าการใช้อาวุธกำลังหรือความรุนแรงเป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุด /...ใช้เพื่อผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธต่อสู้ขัดขวางการจับกุม หรือเพื่อช่วยบุคคลอื่นที่อยู่ในอันตรายต่อชีวิต /.....เมื่อมีการใช้อาวุธ กำลัง หรือความรุนแรงเกิดขึ้น ต้องรายงานเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาตามระเบียบ
4. ในการรวบรวมพยานหลักฐาน การสืบสวนสอบสวน ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง
4.1 ไม่ทำการทารุณหรือทารุณกรรม 4.2 ไม่ใช้ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการทารุณ
4.3 ไม่ทำการข่มขู่ หรือรังควาน แนะนำเสี้ยมสอนบุคคลให้ให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จหรือปรักปรำผู้อื่น
4.4 ไม่กักขัง หน่วงเหนี่ยว บุคคลที่ยังไม่ได้ถูกตับกุม 4.5 ไม่ใช้อำนาจที่มิชอบ เพื่อให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐาน
5. ต้องควบคุมดูแลบุคคลที่อยู่ในการควบคุมของตนอย่างเคร่งครัด
5.1 ไม่ผ่อนปรนให้บุคคลนั้นมีสิทธิหรือประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
5.2 ไม่รบกวนการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลกับทนาย 5.3 จัดให้บุคคลได้รับการรักษาพยาบาลตามสมควร
5.4 ไม่ควบคุมเด็กและเยาวชนร่วมกับผู้ใหญ่ / ผู้หญิงไม่ควบคุมร่วมกับชาย
6. ต้องรักษาข้อมูลข่าวสารเป็นความลับ /...จะเปิดเผยได้ต่อเมื่อมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเพื่อประโยชน์ในราชการตำรวจ หรือเพื่อการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบตำรวจ
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ
ทั้งสอบเลื่อนจากนายสิบเป็นนายร้อย
และบุคลภายนอกที่จบปริญาตรีทั้งสายธุรการ และ สายปราบปราม
สนใจสั่งซื้อมาที่ decho.by@hotmail.com รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก
ส่งทางอีเมล์เป็นไฟเอกสาร
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
ถ้าเป็นVCDติวสอบตำรวจส่งทางไปรษณีย์ชุดละ 999 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย บิ๊กซีขอนแก่น decho
pragay ออมทรัพย์ โอนเงินแล้วโทรแจ้งที่ 085-0127724 
